คมนาคมนวัตกรรมรถเพื่อการพาณิชย์

เอฟอีวี สยายปีกรุกธุรกิจในเอเชีย ภายใต้บริษัท เอฟอีวี (ไทยแลนด์) จำกัด

เอฟอีวี บริษัทผู้พัฒนาระบบยานยนต์รายใหญ่จากเยอรมนี ประกาศรุกธุรกิจในเอเชียด้วยการเปิดตัวบริษัทสาขาแห่งใหม่ในไทยที่กรุงเทพมหานคร โดยสถานที่ตั้งบริษัทอยู่ที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ภายใต้ชื่อ เอฟอีวี (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเกิดจากการประสานความร่วมมือทั้งจากภาครัฐและลูกค้า เพื่อความต่อเนื่องในการการดำเนินธุรกิจด้านการพัฒนาระบบยานยนต์ เครื่องยนต์ ระบบส่งกำลังยานยนต์ ตลอดจนระบบพลังงานขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า แบตเตอรี่และเซลล์เชื้อเพลิง(fuel cell) ในเอเชีย โดยภายหลังพิธีเปิดบริษัทสาขาดังกล่าวแล้วได้มีการประชุมในหัวข้อ “ ทางออกของพลังงานขับเคลื่อนยานยนต์ในอนาคต” อีกด้วย นายสเตฟาน พิชชินเกอร์  ประธานและซีอีโอ ของเอฟอีวีกรุ๊ป กล่าวว่า  “ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยมีการเติบโตอย่างรวดเร็วและเทคโนโลยีสำหรับระบบขับเคลื่อนในอนาคตเพื่ออากาศที่สะอาดไร้มลพิษ แหล่งพลังงานที่ปลอดภัยและยั่งยืนกำลังเป็นที่ต้องการอย่างมาก รวมถึงระบบขับเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพสูงกำลังเป็นที่ต้องการจากทั่วโลกอยู่ในขณะนี้ ซึ่งเอฟอีวี เป็นบริษัทที่มีเป้าหมายในการพัฒนาสิ่งเหล่านี้เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดเพื่อระบบยานยนต์ในอนาคต” นายอันด์ ไชน์ด ซีอีโอ ของเอฟอีวี เอเชีย กล่าวว่า “มหานครขนาดใหญ่ที่มีประชากรและรถยนต์จำนวนมหาศาลอย่างกรุงเทพ สามารถลดมลพิษและพัฒนาคุณภาพของอากาศได้ด้วยเทคโนโลยีและการพัฒนาระบบยานยนต์ของเอฟอีวี เช่น รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า รวมถึงการขับเคลื่อนของรถที่ใช้สองและสามล้อด้วย สิ่งสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นคือ ต้องเข้าถึงความต้องการและให้การสนับสนุนลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ” บริษัท เอฟอีวี กำลังจะเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการต่างๆของไทย โดยพัฒนาปรับปรุงระบบขับเคลื่อนแบบเดิมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงการจัดส่งอุปกรณ์ทดสอบเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยได้จัดส่ง อุปกรณ์ทดสอบเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ ระบบตรวจสอบและควบคุม คุณภาพตลอดจนการจัดหาฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เพื่อรองรับการพัฒนาของอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจของไทยในยุค 4.0 นายอันเดรย์ สพุงศ์ กรรมการผู้จัดการของบริษัท เอฟอีวี (ไทยแลนด์) จำกัด มีประสบการณ์ในการทำงานกับเอฟอีวีมายาวนานถึง20ปีและมีความคุ้นเคยกับภูมิภาคในเอเชีย โดยก่อนหน้านี้เคยเป็น ซีอีโอของ บริษัทเอฟอีวี ประจำประเทศจีนรับผิดชอบงานด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ หลังจากที่เคยดูแลปฏิบัติการทดลองระบบส่งกำลังยานยนต์ในประเทศอินเดียมาก่อน เกี่ยวกับเอฟอีวี เอฟอีวี เป็นบริษัทผู้ให้บริการด้านการพัฒนายานยนต์ที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองอาเคิน ประเทศเยอรมนี มีความเชี่ยวชาญหลากหลาย ทั้งในด้านการให้คำปรึกษาพัฒนานวัตกรรมยานยนต์ ระบบส่งกำลัง ตัวถังรถยนต์ ระบบเกียร์ ระบบขับเคลื่อนแบบไฮบริดและพลังงานไฟฟ้ารวมไปถึงเชื้อเพลิงทดแทนที่เพิ่มความสำคัญอย่างมากในปัจจุบัน นอกจากนี้ เอฟอีวียังมีความเชี่ยวชาญในการเพิ่มประสิทธิภาพระบบควบคุมอิเลกทรอนิกส์ที่เป็นกลไกในการเชื่อมต่อระบบขับเคลื่อนทั้งหมดเข้าด้วยกันโดยเฉพาะในการพัฒนาระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ เอฟอีวี กรุ๊ป มีพนักงานซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางอยู่ถึง 5,600 คนในบริษัทสาขา 40  แห่งในสี่ทวีปทั่วโลก...
อสังหาฯเศรษฐกิจไลฟสไตล์

ผุด “เดอะ สแตรนด์ ทองหล่อ”

1.6 ดีเวล็อปเม้นต์ ร่วมกับ MQDC โชว์โปรเจ็กต์มาสเตอร์พีซ “เดอะ สแตรนด์ ทองหล่อ - THE STRAND THONGLOR” มูลค่า 4,800 ล้านบาท คอนโดมิเนียมหรูต้นทองหล่อ นิยามของการสร้างสรรค์งานศิลปะและงานฝีมือชั้นสูง “Minimal Luxury” พร้อมผสานนวัตกรรม Intelligent Technology นางสาวธัญทิพ เจียรวนนท์ ประธานบริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท 1.6 ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า “1.6 ดีเวล็อปเม้นต์ เป็นผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์รุ่นใหม่ที่มุ่งมั่นที่จะนำมาตรฐานระดับโลกมาสู่วงการอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย ได้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับมาสเตอร์พีซ “เดอะ สแตรนด์ ทองหล่อ - THE STRAND THONGLOR” มูลค่าโครงการกว่า 4,800 ล้านบาท คอนโดมิเนียมมิกซ์ยูส (Mixed-use)  ระดับอัลตร้าลักชัวรี่ โครงการ “เดอะ สแตรนด์ ทองหล่อ - THE STRAND THONGLOR” ตั้งอยู่บริเวณปากซอยทองหล่อ            (สุขุมวิท 55) ห่างจากรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีทองหล่อ เพียง 30 เมตร เป็นอาคารสูง 30 ชั้น ขนาด 1 ไร่ 2 งาน 46 ตารางวา หรือ 2,584 ตารางเมตร มีจำนวนทั้งสิ้น 198 ยูนิต แบ่งเป็นห้องชุด 4 รูปแบบ ได้แก่ 1-Bedroom (1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ) มีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่...
รถยนต์ในประเทศโชว์รูมรถใหม่

วอลโว่ เปิดตัว XC90 และ S90 R-Design

วอลโว่  เปิดตัวรถยนต์ 2 รุ่นใหม่ล่าสุดVolvo XC90  และVolvo S 90 พร้อมการตกแต่งแบบ R-Design ในเครื่องยนต์ T8 Twin Engine AWD 407hpนำเสนอมิติใหม่ของยานยนต์ระดับลักชั่วรี่ที่ผสานสุดยอดแห่งงานดีไซน์สุดล้ำเข้ากับสมรรถนะการขับขี่ที่เป็นเลิศในการออกแบบสไตล์R-DESIGN อันเลื่องชื่อ โดยรูปแบบ R-DESIGN จะมอบความหรูหราที่เหนือชั้นและนำเสนอมาตรฐานใหม่ของวอลโว่ โดยผสานกลิ่นอายแบบสปอร์ตด้วยดีไซน์ขอบข้างตัวรถที่มอบความดุดันและรายละเอียดการออกแบบที่พิถีพิถันเพื่อสร้างรูปทรงที่โฉบเฉี่ยวยิ่งกว่าเดิมR-DESIGN จึงสร้างนิยามใหม่แห่งการออกแบบยานยนต์วอลโว่ พร้อมนำเสนอความโดดเด่นสะดุดตายิ่งกว่า ด้วยเฉดสีใหม่ น้ำเงินเมทัลลิค Bursting Blue ที่หรูหราเกินห้ามใจ โดย Volvo XC90  ราคาเริ่มต้น 4.59 ล้านบาท และVolvo S90  ในราคา   3.59 ล้านบาท นายฌอง-เดวิด ฮาเรล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การเปิดตัวรถยนต์ 2 รุ่นล่าสุดทั้ง XC90 และ S90 หลังจากการเปิดตัวรุ่น XC60 ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวอลโว่ในประเทศไทย โดยรถยนต์รุ่นใหม่ของเราล้วนได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีอัจฉริยะล่าสุดและนำเสนอดีไซน์รถยนต์แบบสแกนดิเนเวียนที่โดดเด่นไม่เป็นรองใครสู่ท้องถนนของเมืองไทย และวันนี้ เราได้นำเสนอมิติใหม่ของงานออกแบบรถยนต์สัญชาติสวีดิช ด้วยการเปิดตัวการตกแต่งแบบ R-DESIGN ทั้งในรุ่น XC90 และ S90 เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจและเปี่ยมด้วยสไตล์อันโดดเด่น พร้อมการตอบสนองที่ฉับไวและการควบคุมที่เป็นเยี่ยม การตกแต่งแบบ R-DESIGN ใหม่ล่าสุดนี้สามารถพบได้ทั้งในรุ่น S90, XC60 และ XC90 ซึ่งมอบความโฉบเฉี่ยวในแนวสปอร์ต ด้วยภาพลักษณ์ที่สวยสะดุดตาและเป็นเอกลักษณ์ใหม่ของวอลโว่” การออกแบบสไตล์R-DESIGNใช้การตกแต่งภายในด้วยNubuck Fine Nappa Perforated Leather สำหรับห้องผู้โดยสาร เพื่อให้สมดุลกับภาพลักษณ์ภายนอกแนวสปอร์ตที่ดุดัน จึงเพิ่มความหรูหราขึ้นอีกระดับซึ่งทั้งนักขับและผู้โดยสารสามารถสัมผัสได้ นอกจากนี้ วอลโว่ยังจับมือเป็นพันธมิตรกับ Harman...
กิจกรรม & CSRกิน-เที่ยวเทสต์ไดรฟ์ไลฟสไตล์ไลฟสไตล์

“ Mercedes-Benz Driving Events 2018”  

สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) ร่วมกับบริษัทเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดกิจกรรม“ Mercedes-Benz Driving Events 2018”  เพื่อส่งเสริมทักษะความรู้และการฝึกอบรมเทคนิคการขับขี่ปลอดภัยให้กับสมาชิกฯโดยเฉพาะซึ่งถือว่าเป็นกิจกรรมแรกของคณะกรรมการสมาคมชุดใหม่ (ประจำปี 2561-2562) นำโดยนายภูวนาถ เผ่าจินดานายกสมาคมฯ    โดยการอบรมในครั้งนี้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2561 ที่ผ่านมา ณ สนามพีระเซอร์กิตพัทยา นายไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า   บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ตอกย้ำภาพผู้นำรถหรู ที่โดดเด่นทั้งในด้านนวัตกรรมยานยนต์ด้านความปลอดภัย ดีไซน์ และสมรรถนะ เดินหน้าจัดกิจกรรมฝึกอบรมเทคนิคการขับขี่ปลอดภัยครั้งที่ 15เชิญสื่อมวลชนและลูกค้าคนสำคัญเสริมทักษะความรู้และวิธีการขับขี่แบบปลอดภัย จากทีมผู้ฝึกสอนมืออาชีพจากประเทศออสเตรเลีย พร้อมขนทัพรถหรูรุ่นล่าสุด มาให้ร่วมทดสอบกันอย่างครบครันในทุกเซ็กเมนต์ อาทิสุดยอดยนตรกรรมดีไซน์สปอร์ตThe new CLS300 dAMG Premiumสปอร์ตคูเป้สุดหรูThe E 200 Coupé AMG Dynamicรถยนต์เปิดประทุนแบบ 4ที่นั่งS 500 Cabriolet AMG Premiumและยนตรกรรมระดับพรีเมี่ยมกว่าสิบรุ่น จำนวนรวม 21 คัน ณ สนามพีระเซอร์กิต พัทยา “เมอร์เซเดส-เบนซ์ ดำเนินงานภายใต้ความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอ “สิ่งที่ดีที่สุด”ให้กับลูกค้าทั้งในวันนี้และวันข้างหน้า โดยหนึ่งในพันธกิจที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ให้ความสำคัญและยึดมั่นเสมอมาคือการคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ขับขี่รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้คิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยอันก้าวล้ำมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ในเรื่องการลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุจากการขับขี่ให้เป็นศูนย์ (Accident-Free Driving)และเพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดบนท้องถนน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับ“การพัฒนาทักษะการขับขี่” เพื่อให้ผู้ขับขี่ทุกท่านได้มีความรู้ความเข้าใจในการใช้งานระบบความปลอดภัยของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และสามารถนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ในการช่วยเหลือตนเอง และบุคคลรอบข้าง ในกรณีที่เกิดเหตุคับขัน เพื่อช่วยลดความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีกทางหนึ่ง” นายฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ รองประธานบริหาร ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย)...
นวัตกรรมรถยนต์ต่างประเทศรถใหม่ต่างประเทศเทสต์ไดรฟ์

โตโยต้า C-HR ไทย คว้า 5 ดาว จาก ASEAN NCAP

โตโยต้า C-HR รถยนต์ซับคอมแพคเอสยูวีรุ่นใหม่ล่าสุดของประเทศไทย ได้การรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาว จากการทดสอบการชนรถใหม่ในอาเซียน หรืออาเซียน เอ็นแคป (ASEAN NCAP) ตามหลักเกณฑ์การประเมินแบบใหม่สำหรับปี พ.ศ. 2560 – 2563 เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2561 โตโยต้า C-HR ได้รับการพัฒนาจากแนวคิดที่ท้าทายในการผลิตยนตรกรรมให้ดียิ่งกว่าของโตโยต้า (Ever-better Cars) ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์ “ยานพาหนะ” ที่มอบความอุ่นใจในทุกการเดินทาง ผ่านการบูรณาการความปลอดภัยอย่างครบถ้วน ซึ่งโตโยต้า  C-HR ที่ได้รับการทดสอบการชนนั้น เป็นรถที่มี ฐานการผลิตและขายในประเทศไทย อีกทั้งยังส่งออกไปในหลายประเทศทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยความเพียบพร้อมในทุกๆด้าน เช่น สมรรถนะในการขับขี่ ความปลอดภัย ความแข็งแกร่ง และทนทาน ทำให้ Toyota C-HR เป็นรถยนต์ซับคอมแพคเอสยูวีรุ่นแรกและรุ่นเดียวในประเทศไทย ที่ได้รับรางวัล การรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาว จากการทดสอบการชนรถใหม่ในอาเซียน หรืออาเซียน เอ็นแคป (ASEAN NCAP) ภายใต้ "การประเมินผลแบบใหม่สำหรับปี พ.ศ. 2560 – 2563 ซึ่งได้รับการติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานความปลอดภัยที่ได้รับการพัฒนาล่าสุดอย่างครบครัน อันได้แก่     ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง (ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ถุงลมนิรภัยด้านข้าง ม่านถุงลม และถุงลมนิรภัยตำแหน่งหัวเข่าด้านคนขับ)     เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าพร้อมระบบกลไกดึงกลับและผ่อนแรงดึงอัตโนมัติ สำหรับคนขับ และผู้โดยสาร (Retractor Pre-tensioner & Load Limiter for Driver and Passenger)  ระบบป้องกันล้อล็อก (Anti-lock Braking System – ABS)...
มอเตอร์สปอร์ตรถจักรยานยนต์ไลฟสไตล์

ศึก”พีทีที บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์2018”เดือด

“พีทีที บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์2018” เข้มข้น!“อนุชา” เฉือน “ฐิติพงศ์” คว้าโพล สนาม 3 ศึกสองล้อชิงแชมป์ประเทศไทย “พีทีที บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2018” อยู่ในสถานการณ์สุดเข้มข้นของการดวลสนาม 3 ชี้เส้นทางลุ้นแชมป์ประจำปีนี้ ล่าสุดผ่านควอลิฟาย “ซุป” อนุชา นาคเจริญศรี จาก ยามาฮ่า ไรเดอร์ส คลับ เรซซิ่ง ทีม เฉือน “ติ๊งโน๊ต” ฐิติพงศ์ วโรกร จ่าฝูงจาก คอร์ คาวาซากิ ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม เสี้ยววินาที คว้าโพลไปครอง ก่อนชี้ชะตาวันอาทิตย์นี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ สีสันขอบสนาม "พีทีที บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ 2018" เก็บตกความสวยงามจากพิทวอล์ค   การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ "พีทีที บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2018"   มีคิวดวลความเร็วสนามที่ 3 ของปี ระหว่างวันที่ 10-12 สิงหาคมนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยในวันอาทิตย์ที่ 12 สิงหาคมนี้เป็นรอบชิงชนะเลิศ   สถานการณ์ในสนามสุดเข้มข้น เนื่องจากเข้าสู่โค้งสุดท้าย ชี้เส้นทางลุ้นแชมป์ประจำปีนี้พร้อมสิทธิ์ไวด์การ์ดระดับโลก ถ่ายทอดสดทาง ทรูโฟร์ยู ช่อง 24...
กิจกรรม & CSRกิน-เที่ยวมาร์เก็ตติ้งเศรษฐกิจไลฟสไตล์ไลฟสไตล์

งาน มหัศจรรย์พันธุ์ไม้เมืองหนาวครั้งที่ 7

งานมหัศจรรย์พันธุ์ไม้เมืองหนาว เฉลิมพระเกียรติฯ เปิดรับคลื่นมหาชน ชื่นชมความงดงามและ พันธ์ไม้เมืองหนาวที่ได้จากนวัตกรรมก๊าซธรรมชาติภายในโดมเย็น ที่ถูกเนรมิตเป็น ทุ่งดอกทิวลิปหลากสี ดอกไฮเดรนเยียสายพันธุ์ใหม่ ดอกดาเลียขนาดยักษ์ ดอกดิจิทาลิสสีสวย ชื่นชมดอกซากุระจากต้นจริง ไร่สตรอเบอรี่ และสีสันอื่นๆอีกมากมาย งาน มหัศจรรย์พันธุ์ไม้เมืองหนาวครั้งที่ 7 : ทิวลิปบานที่ระยอง ปีนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-15 สิงหาคม 2561 ณ สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตำบลมาบข่า อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง ภายใต้คอนเซปต์ THE BLOOMING OF HAPPINESS : ทิวลิปบาน เทศกาลแห่งความสุข ฤดูกาลแห่งความสุขที่กำลังผลิบานอีกครั้ง กับเทศกาลความงดงามของดอกทิวลิปและดอกไม้เมืองหนาวนานาพันธุ์  ภายในโดมยักษ์ พื้นที่ กว่า 4,500 ตารางเมตร  มีดอกไม้เมืองหนาวหลากสายพันธุ์ รวมกว่า 100,000 ต้น ที่สามารถนำมาปลูกได้ในอากาศเมืองร้อนอย่างประเทศไทย เช่น ดอกทิวลิป ดอกลิลลี่ ดอกดาเลีย ดอกไฮเดรนเยีย ดอกกล้วยไม้ฟาแลนนอปซิส และต้นสตรอเบอรี Harumiki (ฮะรุมิกิ) สตรอเบอรี่สายพันธุ์ Akihime (อากิฮิเมะ) สายพันธุ์แท้จากประเทศญี่ปุ่น ที่ทาง ปตท. ได้นำพลังงานความเย็นไปใช้เพื่อปลูกและพัฒนาขยายพันธุ์ เพื่อส่งต่อความรู้ให้กับชุมชน นายสมนึก แพงวาปี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ แยกก๊าซธรรมชาติ  ปตท.กล่าวว่า  หลังจาก ในปี 2553 ปตท. โดย โรงแยกก๊าซธรรมชาติระยอง ริเริ่ม โครงการการใช้ความเย็นและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ในการวิจัยไม้เมืองหนาว ตามโครงการในพระราชดำริฯ เมื่อประเทศไทยเริ่มนำเข้า  ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) มาเป็นแหล่งพลังงานสำรอง ตอบสนองความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติที่เพิ่มขึ้น โดยค้นพบว่ามี “พลังความเย็น” จำนวนมากที่เป็นผลพลอยได้จากกระบวนการเปลี่ยนสถานะ LNG...
กิจกรรม & CSRกิน-เที่ยวมาร์เก็ตติ้งไลฟสไตล์ไลฟสไตล์

10 ปี “โตโยต้าปลูกป่านิเวศ”

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด นำคณะผู้บริหารของบริษัทฯ พร้อมด้วย พนักงานโตโยต้าจิตอาสา สมาชิก Toyota CSR Facebook และ สมาชิก Toyota Group Environment Network กว่า 200 คน ร่วมกิจกรรมครบรอบ 10 ปี “โตโยต้าปลูกป่านิเวศ” (Eco-Forest) ภายใต้โครงการ “โตโยต้าเมืองสีเขียว..เพื่อธรรมชาติ เพื่อทุกชีวิต” ทำการปลูกต้นไม้ครบ 1,350,000 ต้น ในระหว่างวันที่ 3 – 4 สิงหาคม 2561 ที่ผ่านมา ณ โรงงานโตโยต้าบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา จาก “พันธสัญญาด้านสิ่งแวดล้อมของโตโยต้า พ.ศ. 2593” ที่มีเจตนารมณ์ในการพัฒนาความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีให้เติบโตควบคู่กันไปกับการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด จึงได้มุ่งมั่นในการดำเนินงานในทุกกระบวนการอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการเผยแพร่องค์ความรู้ สร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมแก่สังคมไทย ผ่านกิจกรรมต่างๆภายใต้โครงการ “โตโยต้า เมืองสีเขียว…เพื่อธรรมชาติ เพื่อทุกชีวิต” โดยมีวัตถุประสงค์ในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้เป็น เมืองสีเขียว เพื่อสนับสนุนคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าของชุมชนเมือง กิจกรรม “โตโยต้าปลูกป่านิเวศ” (Eco-Forest) ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมภายใต้โครงการ “โตโยต้าเมือง สีเขียว..เพื่อธรรมชาติ เพื่อทุกชีวิต” ที่ได้ดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลา 10 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2551 เริ่มต้นจากการปลูกป่าภายในบริเวณโรงงานบ้านโพธิ์ จำนวนกว่า 100,000 ต้น ครอบคลุมพื้นที่กว่า 30 ไร่ และมีการเจริญเติบโตเต็มที่ตามธรรมชาติ จนกลายเป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ทางระบบนิเวศ เกิดเป็นความหลากหลายทางชีวภาพของทั้งพืชและสัตว์ ที่มาอาศัยอยู่ในพื้นที่ป่าของโรงงานโตโยต้าบ้านโพธิ์ และได้ยกระดับสู่การเป็น ศูนย์การเรียนรู้ความหลากหลายทางชีวภาพและความยั่งยืน “ชีวพนาเวศ” ที่ปัจจุบันได้เปิดให้บรรดานักเรียน นักศึกษา...
คมนาคมนวัตกรรมเศรษฐกิจไลฟสไตล์ไลฟสไตล์

นิสสันร่วมงาน Blognone Tomorrow

ในงาน Blognone Tomorrow ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรก นิสสันได้นำเสนอความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมพลังงานขับเคลื่อน Nissan Intelligent Power นวัตกรรมการขับขี่ Intelligent Driving และนวัตกรรมการบูรณาการของยานยนต์สู่สังคม Intelligent Integration ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ของนิสสันในการเปลี่ยนรูปแบบชองการขับขี่และการใช้ชีวิตในอนาคต ด้านนายวินเซนต์ ไวจ์เนน รองประธานอาวุโส นิสสัน เอเชีย และโอเชียเนีย (Vincent Wijnen, senior vice president for Nissan Asia and Oceania) กล่าวว่า นิสสันมีความเข้าใจในกลุ่มคนยุคมิลเลนเนียนที่ต้องการ การเชื่อมต่อไม่ว่าจะเป็นขณะขับขี่หรือขณะเป็นผู้โดยสารในรถ "ในปี 2020 ผู้ซื้อรถใหม่ 40% จะเป็นคนยุคมิลเลนเนียลที่คุ้นเคยกับโลกดิจิตอล ต้องการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตตลอด 24 ชั่วโมง ในทุกๆวัน รถยนต์จะเป็นมากกว่ายานพาหนะที่ช่วยให้เราย้ายจากจุด A ไปยังจุด B รถยนต์จะเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์พวกเขา นิสสันมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่มีความเพลิดเพลิน ปลอดภัย และยังยั่งยืน ผ่านแนวคิด Nissan Intelligent Mobility ของเรานี้ซึ่งเริ่มต้นด้วยการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า. จากการศึกษาของนิสสันร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาอย่าง Frost & Sullivan พบว่าผู้บริโภคชาวไทยกว่า 40% เปิดใจพร้อมซื้อรถยนต์ไฟฟ้าเป็นรถยนต์คันถัดไป และ นิสสันลีฟ (LEAF) ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในโลกจะเปิดตัวในประเทศไทยภายในปีงบประมาณ 2561 ของบริษัทฯ นับเป็นผู้นำในรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ที่มีส่วนสร้างความยั่งยืนทั้งในด้านขับเคลื่อนและสิ่งแวดล้อม นาย ไวจ์เนน ยังอธิบายเพิ่มเติมว่า "เทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ ของนิสสันให้ประสบการณ์การขับขี่แบบเดียวกับรถไฟฟ้าแต่ไม่ต้องใช้การชาร์จไฟด้วยการเสียบปลั๊กกับตัวรถ อี-พาวเวอร์จะใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาดเล็กผลิตไฟเพื่อชาร์จสู่แบตเตอรี่แทน ในการอภิปรายเกี่ยวกับการขับขี่แบบอัตโนมัติ นายไวจ์เนน ได้ยกประเด็นผู้บริโภคในอนาคตจะใช้เวลาในการติดต่อกับเพื่อนหรือเข้าสังคมออนไลน์มากกว่าให้ความสนใจกับการจราจรติดขัด "ที่นิสสัน เราเชื่อมั่นในการสร้างทางเลือกแก่ผู้คน และเรามีทางเลือกในการขับขี่ให้กับลูกค้าของเรามากขึ้น เทคโนโลยี ProPILOT ซึ่งปัจจุบันมีวางจำหน่ายแล้วในประเทศญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา ถือเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้เราได้รับการขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ ด้วยเทคโนโลยีของนิสสันชนิดนี้...
กิจกรรม & CSRกิน-เที่ยวเศรษฐกิจไลฟสไตล์ไลฟสไตล์

คาราวานเงาะนาสารส่งตรงถึงเหนือและอีสาน

สหกรณ์การเกษตรเมืองสุราษฎร์ธานี จำกัด เร่งระบายเงาะโรงเรียนนาสารออกสู่ตลาด หวั่นผลผลิตกระจุกตัวในพื้นที่ ปล่อยคาราวานรถขนเงาะส่งขายให้เครือข่ายสหกรณ์ในเขตกรุงเทพฯ ภาคเหนือและอีสานว 7 แห่ง รวม 28.3 ตัน  ขณะที่สิงค์โปรสั่งซื้อเงาะจากสหกรณ์วันละ6 ตัน มั่นใจเงาะคุณภาพตลาดต้องการพร้อมติดป้ายสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าตรวจสอบย้อนกลับได้หากไม่พอใจสินค้า ไร้กังวลเงาะราคาตกต่ำ ส่งขายเองไม่ผ่านคนกลาง คาดระบายเงาะหมดภายในเดือนกันยายน.นี้ นายเชิดชัย พรหมแก้ว รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นประธานปล่อยคาราวานเงาะโรงเรียนนาสารซึ่งเป็นเงาะจากพื้นทีเกษตรแปลงใหญ่ จำนวน 10 คันปริมาณ 28.3 ตัน  เพื่อส่งไปยังจังหวัดต่าง ๆ ในภาคอีสาน และภาคเหนือ จำนวน 7 สหกรณ์  ได้แก่ 1.สหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จำกัด จ.ร้อยเอ็ด 14.8 ตัน 2.สหกรณ์การเกษตรเมืองลับแล จำกัด จ.อุตรดิตถ์  2.7 ตัน 3.สหกรณ์การเกษตรปราสาท จำกัด จ.สุรินทร์ 2.7 ตัน 4.ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรจังหวัดบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ 2.7 ตัน 5.สหกรณ์การเกษตรพิมาย จำกัด จ.นครราชสีมา 4.7 ตัน 6.สหกรณ์การเกษตรประตูป่า จำกัด จ.ลำพูน 2.7 ตัน แลกกับลำใยของจังหวัดลำพูน 3 ตัน  7.ชุมนุมสหกรณ์แห่งประเทศไทย จำกัด 3 ตัน ซึ่งเป็นการดำเนินโครงการกระจายผลไม้ผ่านขบวนการสหกรณ์ ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นการกระจายผลผลิตเงาะออกสู่ตลาดปลายทางเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรจากปัญหาราคาเงาะตกต่ำโดยเฉพาะในช่วงเดือนก.ค. - ก.ย. นี้ เนื่องจากผลผลิตออกพร้อมกันจำนวนมาก ซึ่งสหกรณ์การเกษตรเมืองสุราษฎร์ธานี จำกัด เป็นผู้รวบรวมเงาะคุณภาพจากสหกรณ์ฯ และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนพัฒนาไม้ผลเพิ่มพูลทรัพย์ ตำบลลาพูน อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อนำมาจัดส่งกระจายไปยังผู้บริโภคทั่วประเทศ ด้านนายธวัชชัย เทพเลื่อน ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรเมืองสุราษฎร์ธานี จำกัด กล่าวว่า สหกรณ์ได้ปล่อยเงาะโรงเรียนออกสู่ตลาดและส่งจำหน่ายให้เครือข่ายสหกรณ์จังหวัดต่างๆทั่วประเทศแล้วจำนวน ...
1 275 276 277 278 279 281
Page 277 of 281