ไลฟสไตล์

กิจกรรม & CSRไลฟสไตล์

คนไทยคนแรกที่ได้รับรางวัล ITS World Congress Hall of Fame “Lifetime Achievement Award” ในวันที่16 กันยายน 2567 ในระหว่างการประชุม ITS World Congress ครั้งที่ 30 ที่จัดขึ้นที่ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

กิจกรรม & CSRไลฟสไตล์

“ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่”ประสาน “HOOK’S”โชว์ฟินาเล่บนรันเวย์ ELLE Fashion Week 2018

จากที่สุดแห่งยนตรกรรมสปอร์ตครอสโอเวอร์ระดับพรีเมียม “ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่” สู่งานออกแบบเสื้อผ้าในคอลเลคชั่นพิเศษที่เปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจ เพื่อสะท้อนตัวตนของคุณได้มากกว่าที่เคย โดยดีไซเนอร์แบรนด์ HOOK’S  “ผักกาด - ประภากาศ อังศุสิงห์” ผ่านโชว์ชุดฟินาเล่ “HOOK’S Presented by Honda HR-V” ในงาน Elle Fashion Week Fall/Winter 2018 ภายใต้งานออกแบบที่งดงาม แฟชั่นดีไซเนอร์หลายคนทั้งไทยและต่างประเทศ ต่างรังสรรค์ผลงานที่เปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากสิ่งที่พวกเขาได้พบเจอ เมื่อ “ผักกาด - ประภากาศ อังศุสิงห์” ดีไซเนอร์แบรนด์ HOOK’S ได้สัมผัสกับ ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ รถยนต์สปอร์ตครอสโอเวอร์ที่มีความโดดเด่นในทุกมิติ คงไม่แปลกหาก “ผักกาด” จะใช้โอกาสนี้ นำจุดเด่นของฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่มาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์เสื้อผ้าคอลเลคชั่นพิเศษ ที่ยังคงลายเซ็นของความเป็นแบรนด์ HOOK’S และผสมผสานความสปอร์ตของฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ออกมาได้อย่างลงตัว สำหรับโชว์ “HOOK’S Presented by Honda HR-V” เปิดตัวได้อย่างน่าตื่นเต้น เมื่อแสงที่ส่องสว่างวาบออกมาจากด้านหลังของเวทีที่ค่อย ๆ เปิดออก เป็นแสงที่มาจากไฟหน้า Full LED ของฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ ที่ขับโดยนายแบบหนุ่มหล่อออกมายังกลางรันเวย์แฟชั่นโชว์จนสะกดทุกสายตาผู้ชมในทุกมุมมอง หลังจากนั้น เหล่านางแบบและนายแบบ ก็เดินตบเท้าออกมาอย่างสง่างาม เพื่อเผยให้ผู้ชมได้เห็นรายละเอียดของเสื้อผ้าคอลเลคชั่นพิเศษที่สะท้อนความสปอร์ต โฉบเฉี่ยว และเลือกเล่นสนุกกับโทนสีแดงและสีดำบนเสื้อผ้าแต่ละชุด ล้อไปกับสีแดงแพสชั่น ซึ่งเป็นสีใหม่ ใน ฮอนด้า เอชอาร์-วี  ใหม่ รุ่น RS ที่เป็นแรงบันดาลใจสำหรับคอลเลคชั่นนี้ โดยมี นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย)...
กิจกรรม & CSRไลฟสไตล์

“CU TOYOTA Ha:mo” จัดประกวดนวัตกรรมการเดินทางในอนาคต

โตโยต้าต่อยอดโครงการ “CU TOYOTA Ha:mo” จัดประกวด OPEN INNOVATION CONTEST เปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษา ร่วมพัฒนานวัตกรรมการเดินทางในอนาคต” นายนินนาท ไชยธีรภิญโญ ประธานคณะกรรมการ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมกับ รองศาสตราจารย์ ดร.ณัฐชา ทวีแสงสกุลไทย รองอธิการบดี กำกับดูแลด้านการพัฒนางานใหม่และงานนวัตกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิยาลัย ร่วมเป็นประธานเปิดการแข่งขันประกวดโครงงาน OPEN INNOVATION CONTEST เพื่อร่วมพัฒนาสู่นวัตกรรมการเดินทาง ในอนาคต ภายใต้โครงการ “CU TOYOTA Ha:mo” ณ อาคารมหิตลาธิเบศร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2561 โครงการ “CU TOYOTA Ha:mo” ถือกำเนิดขึ้นเนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปีการสถาปนาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และในโอกาสครบรอบ 55 ปีของการก่อตั้งบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ในปี พ.ศ 2560 ภายใต้ความร่วมมือเพื่อทดลองระบบการแบ่งปันรถกันใช้ด้วยยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก EV Car Sharing เพื่อวิ่งในระยะทางสั้นๆ ภายในพื้นที่โดยรอบของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยระบบการคมนาคมสำหรับยุคหน้าอย่าง Ha:mo สำหรับการเดินทางเชื่อมต่อระหว่างระบบขนส่งสาธารณะและการเดินทางส่วนบุคคลอย่างราบรื่น เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับความสะดวกสบาย เดินทางสู่จุดหมายปลายทางได้อย่างรวดเร็วและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จากการศึกษาและทดลองระบบการแบ่งปันรถกันใช้ด้วยยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กในระยะแรกตั้งแต่เดือนธันวาคม 2560 จากการประเมินผลโครงการ “CU TOYOTA Ha:mo” พบว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มเป้าหมาย ด้วยปริมาณการใช้งานของสมาชิกเพิ่มสูงถึง 75 ครั้งต่อวัน นับเป็น New High Record ของการใช้บริการ และเพื่อขยายระบบการคมนาคม Ha:mo ออกไปในวงกว้าง ทางโครงการได้วางแผนที่จะเปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาที่สนใจได้เข้ามามีส่วนร่วมพัฒนาโครงงาน...
รถจักรยานยนต์ไลฟสไตล์

“เวสป้า พรีมาเวร่า ยอชท์ คลับ” การเดินทางสไตล์ล่องเรือ

บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมชั้นนำ “พิอาจิโอ” และ “เวสป้า” พร้อมทั้งรถมอเตอร์ไซค์ระดับตำนาน “อาพริเลีย” และ “โมโต กุซซี่” สัญชาติอิตาเลี่ยนแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เผยโฉมอย่างเป็นทางการแล้วกับสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมสเปเชี่ยล อิดิชั่น “เวสป้า พรีมาเวร่า ยอชท์ คลับ” (Vespa Primavera Yacht Club) ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการล่องเรือตามแบบฉบับอิตาเลี่ยนสุดพิเศษพร้อมมอบสไตล์การเดินทางที่ไม่เหมือนใคร ให้สไตล์ของผู้ขับขี่โดดเด่นและสง่างามบนท้องถนน โดยเปิดตัวผ่านกิจกรรมที่รังสรรค์ขึ้นมาเพื่อแขกคนสำคัญได้สัมผัสถึงไลฟ์สไตล์สุดพรีเมี่ยมกับเวสป้า ด้วยการล่องเรือยอชท์ชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าเพื่อดื่มด่ำความอัศจรรย์แห่งท้องทะเลใต้ ณ เมืองตากอากาศชั้นนำของโลกในจังหวัดภูเก็ต สำหรับความพิเศษที่มาพร้อมกับเวสป้า พรีมาเวร่า ยอชท์ คลับ รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ คุณพรนฎา เตชะไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “นี่คืออีกหนึ่งรุ่นสำคัญที่บรรดานักสะสมและแฟนๆ เวสป้าโดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มผู้หญิงที่ชื่นชอบการขับขี่สไตล์อิตาเลี่ยนไม่ควรพลาด หลังจากที่เราได้นำรถรุ่นนี้ไปให้ชมก่อนใครที่งาน Big Motor Sale 2018 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีโดยมีผู้ที่สนใจสั่งจองภายในงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และสำหรับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่จังหวัดภูเก็ตท่ามกลางบรรดาแขกคนสำคัญเมื่อเร็วๆ นี้นั้น บริษัทฯ หวังที่จะถ่ายทอดแรงบันดาลใจของการเดินทางอันเป็นเอกลักษณ์และเหนือระดับของการล่องเรือสำราญในแบบอิตาลีตอนใต้ ท่ามกลางวิวทิวทัศน์ของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนอันน่าหลงใหล สู่การสัมผัสประสบการณ์ของการใช้ชีวิตและการเดินทางสุดพรีเมี่ยมตามแบบฉบับอิตาเลี่ยนด้วยเวสป้า พรีมาเวร่า ยอชท์ คลับ ที่มาพร้อมรายละเอียดพิเศษรอบคัน” โดยรายละเอียดการออกแบบใหม่ที่สร้างความหรูหรารอบคันผสานเข้ากับสีสันแห่งท้องทะเลและความลงตัวกับเอกลักษณ์ของเวสป้าไฟกลมสุดคลาสสิคของเวสป้า พรีมาเวร่า ยอชท์ คลับ นั้น ประกอบด้วย เนคไทระบายความร้อนที่มาในสีน้ำเงิน เบาะนั่งสีน้ำเงินพร้อมเดินตะเข็บแบบใหม่ด้วยสีขาว ล้อแม็กดีไซน์ใหม่ในสีน้ำเงินทั้งล้อหน้า-หลัง พร้อมด้วยลวดลายกราฟิกในแบบฉบับยอชท์คลับสุดพิเศษ อีกทั้งยังเปี่ยมด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยให้ทุกเส้นทางนิ่มนวลด้วยเครื่องยนต์ i-Get ขนาดเครื่องยนต์ 150 ซีซี และปลอดภัยยิ่งกว่ากับระบบเบรก ABS สะดวกสบายและลงตัวไม่ว่าจะขับขี่ในเมืองหรือเพื่อการท่องเที่ยวแบบมีสไตล์ก็ตาม อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ใหม่สะดุดทุกสายตากับไฟหน้าและไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่ล่าสุด เพื่อให้ทุกการเดินทางรู้สึกแตกต่างและเป็นตัวของตัวเอง โดยเวสป้า พรีมาเวร่า ยอชท์ คลับ สเปเชี่ยล...
กิจกรรม & CSRรถจักรยานยนต์ไลฟสไตล์

ฮอนด้าผุดกิจกรรม “วาดฝันไว้ในหมวกกันน็อก”

เอ.พี.ฮอนด้า เดินหน้าสร้าง “สังคมหัวแข็ง” รณรงค์ขับขี่ปลอดภัยใส่หมวกกันน็อก ผนึกกำลังองค์กรภาครัฐและเอกชน ขับเคลื่อนยกระดับการรณรงค์เพื่อความปลอดภัยให้เป็นวาระแห่งชาติ ขยายแนวคิดไปยังสถานศึกษาและกลุ่มเยาวชน ผุดไอเดียสุดเจ๋งครั้งแรกในประเทศกับกิจกรรม “วาดฝันไว้ในหมวกกันน็อก” นายอารักษ์ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เผยว่า “ทางบริษัท            เอ.พี.ฮอนด้า ได้จัดทำโครงการรณรงค์การขับขี่ปลอดภัยบนถนนมาอย่างต่อเนื่องกว่า 30 ปี ภายใต้โครงการ “ฮอนด้า เมืองไทย ขับขี่ปลอดภัย” เพราะประเทศไทยมีสถิติผู้ใช้รถจักรยานยนต์ โดยเฉพาะเด็กที่ไม่ใส่หมวกกันน็อกมากถึง    93% และจากที่เราได้มีการรณรงค์มาอย่างต่อเนื่องนั้น เมื่อสองปีที่แล้วเราได้ริเริ่มจัดทำโครงการ “สังคมหัวแข็ง” ขึ้นมา เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกให้คนไทยที่ขับขี่จักรยานยนต์ต้องใส่หมวกกันน็อก จนมีคำพูดติดปากที่คุ้นเคยกันดี คือ “ใครไม่ใส่เราไม่ยอม” ซึ่งก็ได้กระแสตอบรับที่ดีมาก ส่วนในปีนี้ สังคมหัวแข็ง ปี 3 ทางฮอนด้าและภาคีเครือข่ายกลุ่มพันธมิตรได้ขยายแนวคิดไปยังสถานศึกษาในระดับประเทศ จึงริเริ่มกิจกรรมโครงการประกวด   “วาดฝันไว้ในหมวกกันน็อก” ระดับชั้นประถมศึกษาตอนต้น  (ประถมปีที่ 1-3) ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกของประเทศ ที่จะใช้กิจกรรมนี้เป็นเวทีถ่ายทอดเรื่องราวความฝันของน้องๆ เยาวชนไทยลงบนหมวกกันน็อก ต่อยอดการร่วมด้วยช่วยกันเตือนให้ทุกคน  รอบข้างได้เห็นถึงความสำคัญและหันมาใส่หมวกกันน็อกทุกครั้งที่ใชัรถจักรยานยนต์ ส่วนอีกกิจกรรมที่เราจะดำเนินคู่ขนานไปด้วย นั่นคือ กิจกรรมประกวดโครงงานรณรงค์การใส่หมวกกันน็อก “โรงเรียนหัวแข็ง”  สำหรับคุณครูและบุคคลากรในโรงเรียนระดับชั้นประถมศึกษาทั่วประเทศ  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทำการรณรงค์ ในพื้นที่ของโรงเรียนและชุมชนของตนเอง “วาดฝันไว้ในหมวกกันน็อก”ระดับชั้นประถมศึกษาตอนต้น  (ประถมปีที่ 1-3) ปิดรับสมัคร 30 พฤศจิกายน 61 “โรงเรียนหัวแข็ง” สำหรับคุณครูและบุคลากรในโรงเรียนระดับชั้นประถมศึกษาทั่วประเทศ ปิดรับสมัคร 31 ตุลาคม 61 ซึ่งทั้ง 2 กิจกรรมนี้ ทางฮอนด้าได้รับความอนุเคราะห์จาก นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการ คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกระทรวงศึกษาธิการ (สพฐ.) มาร่วมผลักดันโครงการ ในประชาสัมพันธ์ไปยังผู้บริหารสถานศึกษาภายใต้สังกัด สพฐ. ซึ่งมีมากกว่า 28,000 โรงเรียนทั่วประเทศและเรายังได้รับความร่วมมือจาก คุณคิม คุก ผู้อำนวยการองค์การช่วยเหลือเด็ก...
กิจกรรม & CSRไลฟสไตล์

“อีซูซุให้น้ำ…เพื่อชีวิต”จังหวัดน่าน

อีซูซุเดินหน้าสานต่อโครงการ “อีซูซุให้น้ำ...เพื่อชีวิต” แห่งที่ 31 แก่โรงเรียนสารธรรมวิทยาคาร จังหวัดน่าน ดร.วิจารย์   สิมาฉายา ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดร.อรัญญา เฟื่องสวัสดิ์ รองกรมทรัพยากรน้ำบาดาล พร้อมด้วยกลุ่มอีซูซุในประเทศไทย โดย นาย ทาเคชิ คาซาฮาระ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เดินหน้าสานต่อปณิธานในการส่งมอบระบบพัฒนาน้ำดื่มสะอาดพร้อมขุดบ่อบาดาล เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำดื่มสะอาดในโรงเรียนให้หมดไปจากสังคมไทยอย่างต่อเนื่องในโครงการ “อีซูซุให้น้ำ...เพื่อชีวิต” แห่งที่ 31 ณ โรงเรียนสารธรรมวิทยาคาร ตำบลตาลชุม อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน โดยมีคุณบอย - ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ ซูเปอร์พรีเซนเตอร์อีซูซุร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย นายทาเคชิ คาซาฮาระ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า “กลุ่มอีซูซุในประเทศไทยได้ดำเนินโครงการ “อีซูซุให้น้ำ...เพื่อชีวิต” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 นับตั้งแต่     ปี พ.ศ. 2556 จนถึงปัจจุบัน โดยเราได้ส่งทีมงานลงพื้นที่สำรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่ของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อรับทราบถึงปัญหาการขาดแคลน “น้ำดื่มสะอาด” และปัญหาเรื่องสารปนเปื้อนในน้ำสูงเกินมาตรฐาน ทำให้ไม่สามารถนำมาบริโภคได้ เพื่อประเมินสถานการณ์ในการจัดสร้างระบบน้ำดื่มแบบครบวงจรให้กับโรงเรียนต่างๆ ในถิ่นทุรกันดารทั่วประเทศ สำหรับโรงเรียนสารธรรมวิทยาแห่งนี้เป็นโรงเรียนลำดับที่ 31 ในโครงการฯ โดยทางโรงเรียนประสบปัญหาเรื่องน้ำมีปนเปื้อนสารเคมี สนิมเหล็ก หินปูน และมีสีขุ่น ทำให้ไม่สามารถนำน้ำมาบริโภคได้ อีซูซุจึงได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือ และทำการส่งมอบระบบน้ำดื่มสะอาดให้เป็นที่เรียบร้อย และในปีนี้กลุ่มอีซูซุในประเทศไทยยังคงเตรียมการเพื่อส่งมอบโครงการ “อีซูซุให้น้ำ...เพื่อชีวิต” ลำดับต่อๆ ไปให้กับโรงเรียนที่ประสบปัญหาเรื่องน้ำอย่างต่อเนื่องตามปณิธานที่มุ่งมั่นของกลุ่มอีซูซุในประเทศไทยที่ให้คำมั่นสัญญาว่าจะดำเนินโครงการนี้จนกว่าจะไม่มีโรงเรียนในประเทศไทยประสบปัญหาขาดแคลนน้ำดื่มสะอาดอีกต่อไป” โรงเรียนสารธรรมวิทยาคาร  ตั้งอยู่ที่ตำบลตาลชุม อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน ตั้งอยู่บนเนินเขา โดยเปิดสอนในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 -  6 มีนักเรียน 170 คน ครูและบุคลากรในโรงเรียน 25 คน จากการสำรวจพบว่า...
นวัตกรรมรถยนต์ในประเทศไลฟสไตล์

เมอร์เซเดส-เบนซ์ จับมือ 3 เครือโรงแรมใหญ่ขยายจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ตอกย้ำภาพลักษณ์ผู้นำอันดับหนึ่งด้านยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า ภายใต้แบรนด์ EQ - Electric Intelligence by Mercedes-Benz ลุยยกระดับการให้บริการด้านรถยนต์ไฟฟ้า เต็มสูบ ดำเนินการขยายเครือข่ายจุดติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในเฟสแรก กว่า 63 จุดทั่วประเทศ ใน 3 เครือโรงแรมชั้นนำของเมืองไทย ได้แก่ Marriott  Minor Hotels และ Hilton มุ่งให้บริการตั้งแต่รถลิมูซีนไปจนถึงลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการที่โรงแรม พร้อมเดินหน้าเตรียมเพิ่มสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าอีกหลายแห่งในอนาคต นายไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า  “เมอร์เซเดส-เบนซ์ดำเนินงานภายใต้ความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอ ‘สิ่งที่ดีที่สุด’ ให้กับลูกค้าทั้งในวันนี้และวันข้างหน้า ผ่านการนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่และเทคโนโลยีระดับนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหนึ่งในแบรนด์รถยนต์ที่เราให้ความสำคัญ คือ แบรนด์เทคโนโลยี ‘EQ – Electric Intelligence by Mercedes-Benz’ ที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีสีเขียว และการแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อปูทางไปสู่การขับขี่แบบปลอดการปล่อยไอเสีย โดยภายในปี 2565 บริษัทเมอร์เซเดส-เบนซ์มีแผนจะผสานระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเข้ากับรถยนต์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างทั่วถึง เพื่อให้ลูกค้ามีทางเลือกที่เป็นรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าอย่างน้อย 1 รุ่นในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่รถยนต์จากแบรนด์สมาร์ทไปจนถึงรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ รวมถึงบริษัทฯ กำลังวางแผนจะนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 50 รุ่นย่อยอีกด้วย “สำหรับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยมีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยผู้บริโภคมีความรู้ความเข้าใจในผลิตภัณฑ์เพิ่มมากขึ้น และเล็งเห็นข้อดีของการเลือกใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดย 3 ปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยเติบโตได้เร็ว คือ นโยบายการสนับสนุนด้านรถยนต์ไฟฟ้าจากภาครัฐ ทั้งในด้านการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต หรือนโยบายส่งเสริมการลงทุนต่างๆ ให้แก่ผู้ผลิตรถยนต์ การนำเสนอผลิตภัณฑ์ของค่ายรถต่างๆ ที่เหมาะสมกับตลาดในประเทศไทย และไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค รวมถึงการมีสายการผลิตรถยนต์ที่มีคุณภาพตลอดห่วงโซ่อุปทาน และสุดท้ายคือการขยายเครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าทุกท่านว่าจะได้รับความสะดวกสบายตลอดการเดินทาง ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด” นายไมเคิล เกรเว่ กล่าวต่อไปว่า  ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ได้รับการสนับสนุนที่ดีจากภาครัฐเสมอมา เราจึงพร้อมตอบรับต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย ที่มีเป้าหมายที่จะก้าวไปสู่การพัฒนายานยนต์แห่งอนาคตและอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องที่ใช้พลังงานไฟฟ้าผ่านการลงทุนเปิดสายการผลิตรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดทุกรุ่นและการตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ในประเทศไทย พร้อมนำความรู้ความเชี่ยวชาญจากบริษัทแม่มาพัฒนาบุคลากรชาวไทยเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า...
นวัตกรรมรถใหม่ต่างประเทศไลฟสไตล์

ฟอร์ดพรีเซลล์ สปอร์ต มัสแตง เคาะเริ่มที่ 3.599 ล้านบาท

ฟอร์ดสยบข่าวลือประกอบในไทย  นำเข้าฟอร์ด มัสแตง จากอเมริกาเจาะตลาดไทยในเดือนตุลาคม  เคาะราคาเริ่มต้นที่ 3.599 ล้านบาท เปิดให้ลูกค้าสั่งจองรถล่วงหน้าได้ที่ผู้จำหน่ายฟอร์ด มัสแตง อย่างเป็นทางการ 19 แห่งทั่วประเทศ ด้วยดีไซน์ที่ปราดเปรียวและโฉบเฉี่ยวกว่าที่เคย รวมถึงไฟหน้าและไฟท้ายแบบ Full-LED ฟอร์ด มัสแตง มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ V8 ขนาด 5.0 ลิตรและเครื่องยนต์ EcoBoost ขนาด 2.3 ลิตร รวมถึงเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด และเทคโนโลยีเหนือระดับอย่างโหมดแอพพลิเคชัน Track AppsTM ที่ให้ผู้ขับขี่เปิดประสบการณ์การขับขี่แบบในสนามแข่ง พร้อมเทคโนโลยีเหนือระดับอย่างระบบ SYNC 3 บนแผงหน้าปัดแสดงผลดิจิตอล LCD ขนาด 12 นิ้ว ฟอร์ด มัสแตง รุ่น GT และ EcoBoost มาพร้อมชุดแต่ง Performance Pack ที่ให้เฟืองท้ายแบบ Limited-Slip ให้การขับขี่ในโค้งสนุกสนานขึ้น และล้ออัลลอยสีดำขนาด 19 นิ้วในทั้งสองรุ่น รวมถึงระบบเบรค Brembo ในรุ่น GT และฟีเจอร์เสริมอีกมากมาย ที่เข้ากับเอกลักษณ์ในการขับขี่ที่สนุกสนาน และยังคงตำนานอันโดดเด่นกว่า 50 ปี ในแบบฉบับของฟอร์ด มัสแตง ได้เป็นอย่างดี ฟอร์ด มัสแตง มีจำหน่าย สองรุ่น ราคาจำหน่ายช่วงเปิดตัว  ฟอร์ด มัสแตง 5.0 L V8 GT Coupe Performance Pack  ราคา 4.799 ล้านบาท   ส่วน ฟอร์ด มัสแตง 2.3 L...
กิน-เที่ยวไลฟสไตล์

อีซูซุพาท่องเว้-ดานัง เช็คอิน “บาน่า ฮิลล์” เวียดนาม

เติมเต็ม “ความสุข สนุกสุด...ฉุดไม่อยู่” อีกครั้งกับ “อีซูซุ คาราวานสัญจร 2018” คาราวานท่องเที่ยวเส้นทางที่ 3 : ไทย (มุกดาหาร) – เวียดนาม (บาน่า ฮิลล์)  นำสมาชิกประชาคมอีซูซุ 29 คันจากทั่วประเทศ และคณะสื่อมวลชนรวมกว่า 100 ชีวิต เดินทางสัมผัสประสบการณ์ในแบบคาราวานท่องเที่ยวทางรถยนต์สู่เวียดนามตอนกลาง เว้-ดานัง  ระยะทางไป-กลับกว่า 1,000 กม. ชมวิถีชีวิตและโบราณสถานเก่าแก่ที่ห้ามพลาดของเมืองเว้ ก่อนไปตะลุยเมืองตากอากาศแสนสวย “บาน่า ฮิลล์” เดินชม “สะพานสีทองบนมือยักษ์” แลนด์มาร์กแห่งใหม่ล่าสุดในเมืองดานัง เริ่มต้นการเดินทาง สมาชิกคาราวานได้มารวมตัว ณ บริษัท ตังปักอำนาจเจริญ จำกัด (สาขามุกดาหาร) โดยมี   คุณปานทอง สระคูพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร คุณสุริยัน โสรินทร์ รองผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครพนม นาย อาร์ ซากาโนะ ผู้จัดการอาวุโส ในฝ่ายขายดีลเลอร์บี บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด พร้อมด้วยอาจารย์พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ผู้อำนวยการจัดคาราวาน ร่วมให้การต้อนรับและตีธงปล่อยขบวนรถอีซูซุ คาราวานสัญจรทั้ง 29 คัน เดินทางข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 2 ซึ่งเชื่อมระหว่างจังหวัดมุกดาหารของประเทศไทยกับแขวงสะหวันนะเขตของ สปป.ลาว วิ่งไปบนถนนหมายเลข 9 ซึ่งอยู่ภายใต้โครงการพัฒนาเศรษฐกิจตามแนวตะวันออกและตะวันตก (East-West Economic Corridor) เป็นถนนสายเศรษฐกิจในภูมิภาคอินโดจีนระหว่างประเทศไทย ประเทศลาว และประเทศเวียดนาม (เมืองดานัง) ก่อนข้ามด่านแดนสวรรค์-ลาวบาวเพื่อเข้าสู่ที่พักคืนแรกในเมืองเว้ ประเทศเวียดนาม ในช่วงบ่าย  พอมีเวลาได้เดินชมเมืองเว้ก่อนร่วมงานเลี้ยงแสนอบอุ่นในสไตล์อีซูซุในมื้อค่ำ เช้าวันที่สอง สมาชิกคาราวานอีซูซุได้ท่องเที่ยวใน “เมืองเว้” เมืองมรดกโลกที่ยังมีร่องรอยของประวัติศาสตร์ และความเก่าแก่แบบคลาสสิก โดยไม่พลาด “พระราชวังต้องห้าม” ...
กิน-เที่ยวไลฟสไตล์

ลองกองสะบ้าย้อยส่งออกสิงคโปร์

สหกรณ์การเกษตรสะบ้าย้อย จำกัด เปิดจุดรับซื้อลองกองคุณภาพ การันตีรสชาติหวานหอมกลมกล่อม   ช่วยเกษตรกรชาวสวนลองกองในจังหวัดสงขลาเร่งระบายผลผลิตสู่ตลาด พร้อมส่งทดสอบตลาดที่ประเทศสิงคโปร์   ประเดิมล็อตแรก 2 ตัน  วางแผนทำลองกองแปลงใหญ่คุณภาพ ป้อนตลาดพรีเมียม-โมเดิร์นเทรด เชื่อลองกองจะช่วยสร้างรายได้ดีแก่เกษตรกรในระยะยาว นายประยงค์ รักทองอิน ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรสะบ้าย้อย จำกัด จังหวัดสงขลา กล่าวถึงการเปิดจุดรับซื้อและรวบรวมผลผลิตลองกองจากเกษตรกรในจังหวัดสงขลา โดยจะเริ่มวันแรกในวันที่ 25 ส.ค. นี้ ว่า  หลังจากประชุมร่วมกับเครือข่ายกับผู้ปลูกลองกองในจังหวัดสงขลา เพื่อหารือแนวทางการจำหน่ายผลผลิตลองกองคุณภาพออกสู่ตลาด ได้ข้อสรุปว่า  จะสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับสภาเกษตรอำเภอจังหวัดสงขลา สำนักงานเกษตรจังหวัด และกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดจุดรับซื้อลองกอง เพื่อช่วยพยุงราคาและช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนลองกองในพื้นที่อำเภอสะบ้าย้อยเป็นวันแรก  จากทั้งหมด 14 โซน  เพื่อกระจายออกสู่ตลาดและผู้บริโภคทั่วประเทศ โดยในเบื้องต้นผลผลิตล็อตแรกจะส่งให้พ่อค้าที่ประเทศสิงคโปรปริมาณ 2 ตัน ก่อนจะกระจายสู่ผู้บริโภคผ่านเครือข่ายสหกรณ์ทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้มีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ คาดว่าในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนนี้ จะมีผลผลิตลองกองออกสู่ตลาดจำนวนมาก ส่วนราคาลองกองในตลาดขณะนี้อยู่ที่ 35 บาทต่อกิโลกรัม พ่อค้าคนกลางที่มารับซื้อโดยตรงที่สวนรับซื้อในราคา   15 บาท ต่อกิโลกรัม แต่ของสหกรณ์จะรับซื้อนำตลาด ในราคา 28 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อยกระดับราคาลองกองให้ชาวสวนมีรายได้สูงขึ้น ส่วนภาพรวมราคาลองกอง หากสหกรณ์เปิดจุดรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรในพื้นที่ คาดว่าจะทำให้ราคาลองกองดีดตัวขึ้นมาเล็กน้อย ซึ่งคิดว่าในเรื่องช่องทางตลาดในการระบายลองกองไม่น่ากังวล แต่กังวลเรื่องคุณภาพมากกว่าเพราะหากเกษตรกรผลิตลองกองคุณภาพดี ตลาดทุกที่มีความต้องการจะรับซื้อทั้งหมด โดยศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้าของสหกรณ์จะทำหน้าที่ในการรวบรวมผลผลิตของสมาชิกสหกรณ์เพื่อกระจายสู่ผู้บริโภคและส่งไปสู่ตลาดที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งทำให้ลดขั้นตอนการขนส่ง มีความรวดเร็ว ผลผลิตมีความสดใหม่ เกษตรกรตัดลองกองแล้วสามารถส่งถึงผู้บริโภคทันที  และส่งผลให้เกษตรกรขายผลผลิตได้ราคายุติธรรม และผู้บริโภคได้บริโภคลองกองที่มีคุณภาพสดใหม่ในราคาที่ไม่แพงเกินไป อย่างไรก็ตามในอนาคตสหกรณ์ได้วางแผนการทำลองกองแปลงใหญ่โดยจะร่วมมือกับสำนักงานเกษตรอำเภอ   ซึ่งจะเน้นทำลองกองคุณภาพมากขึ้น โดยจะประสานความร่วมมือทางวิชาการด้วยกัน เพื่อให้สมาชิกมีรายได้เพิ่มขึ้นจาก การผลิตผลไม้ที่มีอยู่เดิม หากสหกรณ์สามารถเจาะตลาดระดับพรีเมี่ยมได้ก็จะทำให้ขายผลผลิตได้ในราคาที่สูงขึ้น  ซึ่งขณะนี้มีกลุ่มลูกค้าพรีเมียมที่ติดต่อสั่งซื้อลองกองคุณภาพจากสหกรณ์แล้ว และหากลองกองออกมาต่อเนื่องปีหน้า สหกรณ์ได้วางแผนส่งขายให้กับห้างโมเดิร์นเทรดเพื่อยกระดับคุณภาพและราคาลองกองให้กับเกษตรกรชาวสวนในจังหวัดสงขลา “ผมเชื่อว่าลองกองจะเป็นพืชที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในระยะยาว แม้ว่าลองกองเป็นพืชที่ปลูกได้ทั่วประเทศ  แต่รสชาติจะไม่เหมือนลองกองทางภาคใต้ ซึ่งมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น รสชาติหวานหอมกลมกล่อม สำหรับเทคนิคการปลูกลองกองให้ได้คุณภาพ สหกรณ์จะส่งเสริมสมาชิกพัฒนาคุณภาพลองกอง เนื่องจากที่ผ่านมา ลองกองเคยราคาสูงถึง 80 บาทต่อกิโลกรัม จากนั้นชาวสวนก็ล้มต้นยางไปปลูกลองกอง พอปลูกลองกองก็ทำให้ลองกองมีมากขึ้นแต่เมื่อผลผลิตออกมาเยอะก็ทำให้ราคาตกต่ำเหลือ...
กิจกรรม & CSRกิน-เที่ยวไลฟสไตล์

เชฟโรเลตแนะเคล็ดลับพาสัตว์เลี้ยงเที่ยว

ในช่วงเดือนสิงหาคมของทุกปีจะมีวันสำคัญเพื่อคนรักสัตว์เลี้ยงทั้งหลาย 2 งาน ด้วยกัน ได้แก่ วันแมวโลก (International Cat Day) ซึ่งตรงกับวันที่ 8 สิงหาคม และ วันสุนัขโลก (International Dog Day) ซึ่งตรงกับวันที่ 26 สิงหาคมของทุกปี หากคุณมีแพลนพาเพื่อนสี่ขาตัวโปรดของคุณเดินทางไปเที่ยวทะเลหรือเปลี่ยนบรรยากาศใหม่ๆ เชฟโรเลตขอแนะนำเคล็ดลับในการเดินทางสำหรับคุณ และเพื่อนคู่หูตัวเล็กของคุณ (หรือเจ้าตัวใหญ่) ให้มีความราบรื่น ปลอดภัยและมีความสุข สนุกสนานตลอดการเดินทาง จากข้อมูลการวิจัย การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงมีประโยชน์มากมายต่อสุขภาพของคนเรา เช่น ลดความรู้สึกเหงาลงได้ ทำให้เจ้าของได้ออกกำลังกาย และมีกิจกรรมทางสังคมมากขึ้น เตรียมความพร้อมก่อนการเดินทาง ก่อนเริ่มเดินทาง เราควรเตรียมความพร้อม เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการเดินทาง ดังนี้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่า เพื่อนสี่ขาของคุณได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว และเช็คว่าควรฉีดวัคซีนอะไรเพิ่มเติมตามจุดหมายที่จะไป เพื่อป้องกันโรคต่างๆ เช่น โรคร้ายจากเห็บ (Lyme) นอกจากนี้ ควรบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของโรงพยาบาลสัตว์ แผนกฉุกเฉิน 24 ชั่วโมงไว้ด้วย สัตว์เลี้ยงอาจจะพลัดหลงกับคุณได้ (แต่หวังว่าจะไม่เกิดขึ้นนะ) ดังนั้น ควรพกภาพถ่ายปัจจุบันของสัตว์เลี้ยงไว้กับตัว เป็นความคิดที่ดีที่ควรให้สัตว์เลี้ยงสวมปลอกคอ พร้อมป้ายที่มีเบอร์โทรศัพท์มือถือของคุณติดไว้ ไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงของคุณออกจากรถโดยไม่มีปลอกคอ ป้ายชื่อ หรือสายจูง การเดินทางพร้อมกับสุนัขตัวโปรด สุนัข ซึ่งถือเป็น “เพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์” แต่ไม่ใช่ทุกตัวที่จะสามารถเดินทางโดยรถยนต์เป็นเพื่อนคุณได้ ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือควรฝึกสุนัขให้พร้อม ก่อนที่จะเดินทางจริง ควรควบคุมสุนัขด้วยสายจูงสุนัขระหว่างการเดินทางด้วยรถยนต์ เพื่อความปลอดภัยของสัตว์เลี้ยงและตัวคุณ ตัวเลือกสำหรับการเดินทางของสุนัข คือ ควรใช้สายรัดอกสุนัขแบบยึดติด กระเป๋าใส่สัตว์เลี้ยง หรือที่กั้นสัตว์เลี้ยงสำหรับรถยนต์ รถอเนกประสงค์มีพื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างขวาง จึงสามารถรองรับกระเป๋าใส่สัตว์เลี้ยงขนาดใหญ่ และคุณสามารถใช้สายรัดเฉพาะสำหรับยึดติดกับเบาะหลัง ไม่ว่าสัตว์เลี้ยงของคุณจะอ้อนคุณอย่างไร ไม่ควรยอมให้พวกเขามานั่งที่เบาะหน้า เพราะพวกเขาอาจได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิตได้ หากถุงลมนิรภัยทำงาน ถ้าเพื่อนสี่ขาของคุณตัวใหญ่ ควรจัดให้เขาอยู่ในบริเวณพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถอเนกประสงค์ โดยใช้ถาดรองพื้นรถยนต์ เพื่อป้องกันพรมปูพื้นรถยนต์เสียหาย สัตว์เลี้ยงก็เหมือนเด็กๆ ไม่ควรปล่อยพวกเขาไว้ในรถยนต์เพียงลำพัง ในวันที่อากาศแจ่มใส หรือมีแดดออก แม้จะเปิดหน้าต่างเมื่อจอดรถ...
1 58 59 60 61 62 63
Page 60 of 63