รถยนต์ต่างประเทศ

นวัตกรรม

โตโยต้า คัมรี คว้า 5 ดาว จาก ASEAN NCAP

รถยนต์ซีดานขนาดกลางสุดหรูรุ่นล่าสุด “โตโยต้า คัมรี” ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาว จากการทดสอบการชนรถใหม่ในอาเซียน หรืออาเซียน        เอ็นแคป (ASEAN NCAP) ตามหลักเกณฑ์การประเมินผลแบบใหม่สำหรับปี พ.ศ. 2560 – 2563 เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2562...
นวัตกรรม

บ๊อชปลื้มยอดขายปี 61 พุ่งเป็น7.79 หมื่นล้านยูโร

กลุ่มบริษัทบ๊อชเดินหน้าสานต่อความสำเร็จทางธุรกิจแม้อยู่ในสภาวะเศรษฐกิจและการค้าที่ซบเซา โดยสามารถสร้างยอดขายและผลประกอบการของปี 2561 ได้ในระดับสูงมากเทียบเท่าปีก่อนหน้า จากตัวเลขผลประกอบการเบื้องต้นพบว่า ในปีที่ผ่านมา บ๊อชซึ่งเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเทคโนโลยีและบริการชั้นนำของโลก สามารถสร้างยอดขายได้สูงถึง 7.79 หมื่นล้านยูโร แม้จะได้รับผลกระทบจากการปรับอัตราแลกเปลี่ยนถึง 2.1 พันล้านยูโร ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้น 4.3% จากปีก่อนหน้าหลังปรับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนแล้ว “แม้สภาวะทางเศรษฐกิจจะไม่เอื้ออำนวยแต่บ๊อชก็สามารถดำเนินธุรกิจให้เติบโตขึ้นได้ในปีที่ผ่านมาเห็นได้จากยอดขายและผลประกอบการที่ดีขึ้นเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง” ดร.โวคมาร์ เดนเนอร์ประธานกรรมการกลุ่มบริษัทบ๊อชกล่าวในงานแถลงข่าวผลประกอบการเบื้องต้นของบริษัทฯ “ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรม...
รถยนต์ต่างประเทศ

มิชลินซื้อกิจการ Multistrada ผู้ผลิตยางรถรายใหญ่ในอินโดนีเซีย

เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัท ในวันนี้มิชลินประกาศว่าบริษัทได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อเข้าซื้อกิจการ 80%  จาก PT Multistrada Arah Sarana (“Multistrada”) บริษัทผู้ผลิตยางรถยนต์ในประเทศอินโดนีเซีย ด้วยกำลังการผลิตมากกว่า 180,000 ตัน (ซึ่งประกอบด้วยยางสำหรับรถยนต์ส่วนบุคคล 11 ล้านเส้น ยางสำหรับยานพาหนะสองล้อ 9 ล้านเส้น และยางสำหรับรถบรรทุกจำนวน 250,000 เส้น) โดย Multistrada ได้สร้างยอดขายสุทธิเป็นมูลค่า 281 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2560 ในการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ มิชลินจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งของบริษัทในตลาดอินโดนีเซียที่มีโอกาสประสบความสำเร็จสูงแต่เป็นตลาดที่ถือครองโดยผู้ผลิตในท้องถิ่น โดยจะทำการซื้อกิจการโรงงานในท้องถิ่นที่มีโอกาสในการแข่งขันสูงพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกคุณภาพดีและกำลังในการผลิตที่พร้อมใช้งานทันที และด้วยความเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านการลงทุนใหม่ที่มีข้อจำกัด มิชลินจะค่อยๆ เปลี่ยนการผลิตจากยางรถยนต์ส่วนบุคคลในระดับ 3 ไปเป็นแบรนด์กลุ่มมิชลินระดับ 2 ดังนั้นจะช่วยให้มีการผลิตในระดับ Tier3 ไปผลิตยางในระดับ Tier2 ของแบรนด์ต่างๆในกลุ่มมิชลิน และยังสามารถเอื้อให้โรงงานอื่นๆในเอเชียสามารถผลิตยาง Tier1 และรองรับความต้องการที่เติบโตขึ้นของยาง Tier2 ในยุโรป อเมริกาเหนือและเอเชียได้ นอกจากนี้ ในการซื้อกิจการดังกล่าว มิชลินร่วมกับ Indomobil และนักลงทุนเอกชนจะซื้อหุ้นค้าปลีกจำนวน 20 % จาก PT Penta Artha Impressi (“Penta”) ด้วย ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการตลาดและการขายของแบรนด์กลุ่มมิชลินในอินโดนีเซียให้เพิ่มสูงขึ้น ช่วยให้มิชลินรักษาการเข้าถึงที่สำคัญๆ ในตลาดส่วนใหญ่ไว้ได้ และจะอยู่ในตำแหน่งที่ได้รับผลประโยชน์จากการเติบโตและการขยายตัวในอนาคตของตลาดได้เป็นอย่างดี Jean-Dominique Senard ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มมิชลินกล่าวว่า “การเข้าซื้อกิจการจาก Multistrada ถือเป็นโอกาสที่ดีเยี่ยมสำหรับมิชลินในการขยายการดำเนินงานในอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และมีกำลังการผลิตที่มีคุณภาพและแข่งขันได้ในทันทีโดยไม่ต้องสร้างโรงงานผลิตใหม่” Pieter Tanuri ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Multistrada กล่าวว่า “เราภูมิใจในความสำเร็จของ Multistrada และมั่นใจว่ามิชลินจะเป็นพันธมิตรในอุดมคติที่จะนำ Multistrada ไปสู่การเติบโตและความสำเร็จยุคใหม่เพื่อประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและพนักงานทุกคน” ความร่วมมือด้านการผลิต การขาย และการจัดซื้อที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้คาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 70 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปีภายใน 3...
ออโตโชว์

เผยโฉมเชฟวี่ ซิลเวอร์ราโด จากตัวต่อเลโก้

เชฟโรเลต และนักเรียนจากโครงการแข่งขันหุ่นยนต์FIRST LEGO Leagueโรงเรียนออกซฟอร์ดคอมมูนิตี้ร่วมกับนักเรียนจากโครงการ A World in Motion Program ของโรงเรียนมัธยม ราล์ฟ วอลโด เอเมอร์สัน ในดีทรอยต์เปิดตัวรถกระบะขนาดใหญ่เชฟโรเลต ซิลเวอร์ราโดที่ถูกสร้างจากชิ้นส่วนเลโก้®ขนาดเท่ารถของจริงเป็นครั้งแรกในงานนอร์ทอเมริกาอินเตอร์เนชั่นแนลออโต้โชว์(North American International Auto Show) ซึ่งเพิ่งจะเปิดให้สาธารณชนเข้าชมงาน แบบจำลองนี้ถูกสร้างเป็นรถกระบะซิลเวอร์ราโด ใหม่รุ่นปี 2019 1500 LT เทรลบอสส์ขนาดเท่ารถของจริง และเป็นรถกระบะเชฟโรเลตคันแรกที่สร้างจากตัวต่อเลโก้ทั้งหมด รถกระบะซิลเวอร์ราโดที่ต่อจากเลโก้นี้เป็นความร่วมมือระหว่างเชฟโรเลตและวอร์เนอร์บราเธอส์ พิคเจอร์สที่มีมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ภาพยนตร์เรื่อง "เลโก้แบทแมน" และ “เลโก้ แบทโมบิลจากเชฟวี่” ในปี 2560 โดยความร่วมมือล่าสุดนี้เกิดขึ้นจากความพยายามที่จะสร้างกิจกรรมทางการตลาดให้กับรถกระบะซิลเวอร์ราโดที่เปิดตัวไปเมื่อช่วงต้นเดือนมกราคมนี้ Chevrolet unveils an exact life-size LEGO replica of the all-new 2019 Silverado 1500 LT Trail Boss Saturday, January 19, 2019, just prior to the pubic opening of the North American International Auto Show in Detroit, Michigan. Eighteen LEGO Master Builders spent more than 2,000 hours putting the 334,544 piece LEGO Silverado together. The LEGO...
นวัตกรรม

มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ปลอดภัยรอบคัน

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส มุ่งมั่นออกแบบ พัฒนาและผลิตรถกระบะชั้นนำที่เพียบพร้อมด้วยสมรรถนะ เทคโนโลยีและความแกร่งทนทาน มาตลอดระยะเวลากว่า 40 ปี ทั้งนี้มิตซูบิชิ มอเตอร์สให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายและความปลอดภัยมาตั้งแต่ยุคแรกเริ่มของการผลิตรถกระบะ แม้ในยุคนั้นการใช้งานรถกระบะจะเน้นไปในเชิงพาณิชย์ และอีกกว่า 20 ปีต่อมาการใช้รถกระบะแบบรถยนต์นั่งส่วนบุคคลจึงกลายเป็นที่นิยม ด้วยเหตุนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส จึงเป็นหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยและความสะดวกสบายสำหรับรถกระบะนอกเหนือจากด้านสมรรถนะในระดับแชมป์จากการแข่งขัน “สาเหตุที่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายมาตั้งแต่ยุคที่รถกระบะนิยมนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ เป็นเพราะทีมวิศวกรของเราเข้าใจดีว่าความสะดวกสบายช่วยส่งเสริมการขับขี่ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น” นายโมริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว “ความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้น ช่วยลดความตึงเครียด ความกดดันและสร้างสมาธิให้แก่ผู้ขับขี่ พร้อมตอบสนองต่อทุกสถานการณ์และสภาพเส้นทางขณะขับขี่ได้ดียิ่งขึ้น ความสะดวกสบายยังช่วยทำให้ผู้โดยสารรู้สึกเพลิดเพลินตลอดการเดินทางสู่ทุกจุดหมาย” นายชกกิ กล่าว มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ยังคงได้รับการพัฒนาขึ้นตามแนวคิดดังกล่าว นับเป็นหนึ่งในรถกระบะที่มีอุปกรณ์ครบครันมากที่สุดเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน ทั้งในด้านระบบความปลอดภัย ความสะดวกสบายและเทคโนโลยี หัวใจของความปลอดภัยและความสะดวกสบายในมิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่คือโครงสร้างตัวถังนิรภัย RISE (Reinforced Impact Safety Evolution)ประกอบกับแชสซีส์ที่แกร่งทนทานพร้อมคุณสมบัติยืดหยุ่น ผ่านการทดสอบในภูมิประเทศสุดทุรกันดารทั่วโลก ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถดูดซับแรงกระแทกและต้านทานการเสียรูปทรงเพื่อการปกป้องผู้โดยสารอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ตัวถังที่ทนทานแข็งแกร่งนี้ยังเสริมด้วยเหล็กกล้าที่ทนทาน ช่วยลดน้ำหนักแต่เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างตัวถังนิรภัย ด้วยคุณสมบัติแข็งแกร่งและทนต่อแรงบิดตัวสูง โครงสร้างรถในภาพรวมจึงมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และแชสซีส์ที่แข็งแกร่งส่งผลให้ทีมวิศวกรสามารถทำการปรับแต่งระบบกันสะเทือนเพื่อยกระดับสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้นได้อย่างเต็มที่ โครงสร้างที่มั่นคงยังลดเสียงจากการสั่นสะเทือนและการเสียดสี เพื่อลดเสียงรบกวน แรงสั่นสะเทือน และความกระด้าง มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ จึงมอบสัมผัสที่หรูหราและสะดวกสบายยิ่งขึ้นให้กับภายในห้องโดยสาร รวมถึงการติดตั้งวัสดุป้องกันเสียงรบกวนและลดแรงสั่นสะเทือนในตำแหน่งสำคัญรอบตัวรถ เทคโนโลยีระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันอันทันสมัยที่มีในมิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ได้แก่ ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรงพร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว โดยอาศัยกล้องและระบบเรดาร์เลเซอร์ตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนนข้างหน้า ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตาพร้อมระบบเตือนขณะเปลี่ยนเลน เพื่อเตือนผู้ขับขี่เมื่อมีรถอยู่ด้านข้างขณะเปลี่ยนเลน ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด ตรวจจับว่ามีรถยนต์กีดขวางขณะถอยหลังหรือไม่และ ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะเมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุเมื่อเหยียบคันเร่งไปข้างหน้าหรือถอยหลังโดยไม่ตั้งใจ ระบบความปลอดภัยอันทันสมัยยังเพียบพร้อมด้วย กล้องมองภาพรอบคันที่ใช้กล้อง 4 ตัวจับภาพรอบคัน พร้อมภาพมุมสูงที่แสดงสิ่งกีดขวางรอบคัน และ เซ็นเซอร์กะระยะจอด เพื่ออำนวยความสะดวกในการจอดรถ...
รถยนต์ต่างประเทศ

ปอร์เช่สร้างสถิติยอดส่งมอบรถยนต์ใหม่สูงสุด

ตลอดปี 2018 Porsche AG สามารถดำเนินการส่งมอบรถยนต์ใหม่ถึงมือลูกค้าผู้หลงใหลในยนตรกรรมสปอร์ตสมรรถนะสูงทั่วทุกมุมโลกได้เป็นจำนวนถึง 256,255 คันนับเป็นตัวเลขที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของปอร์เช่อัตราการเติบโตคิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นถึง 4เ  % เมื่อเปรียบเทียบกับสถิติที่ดีเยี่ยมของปีก่อนหน้า ผลสำเร็จในด้านยอดขายเกิดขึ้นจากการตอบรับที่เป็นไปในทิศทางบวกต่อรถสปอร์ตหลากหลายรุ่น  ปอร์เช่ พานาเมร่า (Porsche Panamera) ทุบสถิติอัตราการเติบโตสูงที่สุด โดยเพิ่มขึ้นในสัดส่วนถึง 38 % หรือคิดเป็นตัวเลขยอดส่งมอบกว่า 38,443 คัน สำหรับปอร์เช่ 911 (Porsche 911)ยังคงรักษาอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นด้วยตัวเลขสองหลักเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น  ถึงแม้ว่า 911 เจเนอเรชั่นล่าสุดเพิ่งจะเปิดตัวในช่วงปลายปีก็ตามตัวเลขยอดส่งมอบของยนตรกรรมสปอร์ตเรือธง เพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วนถึง10 % หรือ 35,573 คัน “ปอร์เช่ 911 (Porsche 911)คือยนตรกรรมที่เต็มไปด้วยศักยภาพอันแข็งแกร่งกว่าที่เคยเป็นมาโดยตลอด” ข้างต้นคือความคิดเห็นจาก Detlev von Platen, สมาชิกคณะกรรมการบริหาร ผู้ดูแลรับผิดชอบส่วนงานขายและการตลาดของ Porsche AG “เราเพิ่งผ่านการเฉลิมฉลองการเปิดตัวครั้งแรกของโลก สำหรับปอร์เช่ 911 รุ่นใหม่ (The new Porsche 911)เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ภายในงานมหกรรมยานยนต์นานาชาติ Los Angeles Autoshow,  แต่ถึงกระนั้นในปี  2018  รถสปอร์ตอันเป็นตำนานของเราคันนี้ ยังคงมีเสน่ห์ดึงดูดและสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้าผู้หลงใหลความแรงได้มากกว่าปีก่อนหน้า” ในส่วนของปอร์เช่ มาคันน์(Porsche Macan)สามารถรักษาสถิติรถยนต์ปอร์เช่ที่มียอดจำหน่ายสูงที่สุดด้วยตัวเลข 86,031 คันและตามติดด้วยความสำเร็จของปอร์เช่คาเยนน์ (Porsche Cayenne)จากยอดส่งมอบ 71,458 คัน ประเทศจีนยังคงรักษาสถานะผู้นำอันดับหนึ่งด้านยอดส่งมอบรถยนต์ใหม่ได้อีกครั้งในปี 2018 อัตราการเติบโตพุ่งขึ้นสูงถึง12%  หรือคิดเป็นจำนวนรวมที่ 80,108 คัน  อันดับ 2 คือประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นที่ 3  %หรือ 57,202 คันในส่วนของยอดส่งมอบในยุโรปลดลงจากปีก่อนหน้าเล็กน้อย “เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงวิธีการทดสอบ WLTP test cycleแบบใหม่ รวมทั้งการบังคับใช้ระบบ gasoline...
รถใหม่ต่างประเทศ

ปอร์เช่718 เคย์แมน จีที4 คลับสปอร์ตใหม่ ตัวถังnatural-fibre

ด้วยระยะเวลา 3 ปี หลังการเปิดตัวครั้งแรกของ ปอร์เช่เคย์แมน จีที4 คลับสปอร์ต(Porsche Cayman GT4 Clubsport)  ถึงเวลาแล้วที่ยนตรกรรมผู้รับหน้าที่สืบทอดความแรงลำดับต่อไปจะเผยโฉมที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น: ปอร์เช่ 718 เคย์แมน จีที4 คลับสปอร์ต(Porsche 718 Cayman GT4 Clubsport)อีกหนึ่งความภาคภูมิใจในฐานะตัวแทนของความก้าวหน้า และความสำเร็จอันยอดเยี่ยมจากโรงงานWeissachนับเป็นครั้งแรกที่รถแข่งเครื่องยนต์วางกลาง ซึ่งได้รับการออกแบบพัฒนาให้มีประสิทธิภาพเทียบเคียงรถสนามพันธุ์แท้ที่สุด โดยเพิ่มทางเลือกถึง 2 รูปแบบของตัวถังภายนอก: เวอร์ชันแรกคือ “Trackday” ตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่เพื่อการลงสนามแข่งขันในระดับเริ่มต้น และอีกหนึ่งเวอร์ชั่น “Competition” รองรับการประลองความเร็วบนสนามแข่งขันระดับประเทศและระดับนานาชาติ แนวคิดในการออกแบบพัฒนา ปอร์เช่718 เคย์แมน จีที4 คลับสปอร์ตรุ่นล่าสุด(The new Porsche 718 Cayman GT4 Clubsport) ไม่เพียงมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มสมรรถนะการขับขี่และศักยภาพในการทำความเร็วต่อรอบสนามให้ดีเยี่ยมยิ่งขึ้น แต่ยังครอบคลุมไปถึงการเลือกใช้วัสดุในการผลิตที่คงทนถาวร รวมทั้งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมปอร์เช่ 718 เคย์แมน จีที4 คลับสปอร์ต(Porsche 718 Cayman GT4 Clubsport)คือรถแข่งจากสายการผลิตคันแรกที่ได้รับการติดตั้งชิ้นส่วนตัวถังที่ผลิตขึ้นจากวัสดุ natural-fibre ประตูรถฝั่งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รวมทั้งปีกหลังทรงสูงผลิตขึ้นด้วยวัสดุธรรมชาติorganic fibre mixซึ่งวัตถุดิบดังกล่าวมีแหล่งกำเนิดจากผลผลิตต่างๆในภาคgdK9idii, อาทิ เส้นใยจากต้นปอหรือต้นป่าน ซึ่งมีคุณสมบัติหลายประการใกล้เคียงกับวัสดุ carbonfibreทั้งในแง่ของน้ำหนักที่เบาและมี ความแข็งแกร่งสูง ขุมพลังที่ประจำการอยู่ในปอร์เช่718 เคย์แมน จีที4 คลับสปอร์ต(Porsche 178 Cayman GT4 Clubsport)คือเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบนอน ขนาดความจุ 3.8-ลิตร ให้พละกำลังสูงสุดถึง 425แรงม้า (313กิโลวัตต์) หรือมีกำลังเพิ่มขึ้นถึง 40แรงม้า เมื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพกับรุ่นก่อนหน้า พลังมหาศาลได้รับการถ่ายทอดต่อไปจนถึงล้อขับเคลื่อนคู่หลัง ผ่านระบบเกียร์อัจฉริยะ 6 จังหวะคลัทช์คู่ รวมทั้งชุดเฟืองท้ายแบบ differential lockชิ้นส่วนสตรัทและสปริงของระบบช่วงล่างด้านหน้าถอดแบบจากตัวแข่งรุ่นพี่ ปอร์เช่ 911...
นวัตกรรมรถยนต์ต่างประเทศ

จีเอ็มเผย 10 ปรากฎการณ์ยานยนต์ในปี 2562

จีเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งดูแลแบรนด์เชฟโรเลต โฮลเด้น และคาดิลแลคในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ร่วมกับนายริชาร์ด วัตสัน นักอนาคตวิทยา ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ NowAndNext.com และผู้เขียนเรื่องดิจิทัลกับมนุษย์ (Digital Vs. Human) เผย 10 เทรนด์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่น่าจับตามองในปี 2562 นายริชาร์ด วัตสัน กล่าวถึงภาพรวมตลาดรถยนต์ว่า “ในปี 2562 ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกจะยังคงเป็นภูมิภาคที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่ดีเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกกำลังมองไปยังอนาคตข้างหน้า ในขณะที่ภูมิภาคอื่นๆ นั้นกลับหวนคิดถึงอดีต” แม้ว่าบางเทรนด์ที่เรากล่าวถึงในวันนี้อาจจะยังไม่เกิดขึ้นในปี 2562 แต่เราเชื่อว่าอีกไม่นานคุณจะได้เห็นเทรนด์เหล่านี้อย่างแน่นอน ซึ่งบางทีอาจจะเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คุณคิดด้วยซ้ำ ที่จริงแล้วการคาดการณ์ของนายริชาร์ดสำหรับอนาคตอันใกล้นี้ตรงกันกับสิ่งที่จีเอ็ม โกลเบิลกำลังดำเนินการอยู่ เพื่อพลิกโฉมอุตสาหกรรมยานยนต์ในศตวรรษที่ 21 ดังนี้ ยานยนต์ไร้คนขับจะยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีการคาดการณ์ว่า การพัฒนาการขนส่งแบบไร้คนขับ ซึ่งรวมถึงรถยนต์ รถไฟ รถโดยสารประจำทาง รถบรรทุก และบางทีอาจจะพัฒนาไปถึงเครื่องบินในที่สุด ครูซ ออโตเมชั่น (Cruise Automation) ซึ่งเป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติของจีเอ็ม กำลังเดินหน้าเพื่อจะนำรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ (AVs) เข้าสู่ตลาดเป็นรายแรก ทั้งนี้ จีเอ็มนับว่าเป็นผู้นำในด้านการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับ ด้วยการเปิดตัวระบบขับเคลื่อนกึ่งอัตโนมัติ ซูเปอร์ครูซ (Super Cruise semi-autonomous) ในรถคาดิลแลคที่จำหน่ายในประเทศจีนและสหรัฐอเมริกา การเติบโตและการลงทุนในรถยนต์ไฟฟ้าและเชื้อเพลิงทางเลือกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ธุรกิจหลักของจีเอ็มที่แข็งแกร่งและความต้องการของตลาดโลกที่มีต่อรถกระบะและรถอเนกประสงค์ ทำให้จีเอ็มสามารถลงทุนในเทคโนโลยีสำหรับอนาคตได้อย่างเต็มที่ เมื่อปี 2560 จีเอ็มประกาศแผนเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจำนวน 20 รุ่นภายในปี 2566 ในขณะเดียวกัน จีเอ็มได้ทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมยานยนต์ เพื่อพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน ซึ่งจะเปิดตัวในอนาคตอันใกล้นี้ การพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าของจีเอ็มควบคู่ไปกับการพัฒนาระบบขับเคลื่อนอัตโนมัตินั้น นับเป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์ของจีเอ็ม เพื่อโลกที่ปราศจากอุบัติเหตุ มลพิษ และความแออัด การแบ่งขั้วระหว่างรถที่มีขนาดใหญ่/ขนาดเล็ก ราคาแพง/ราคาไม่แพง และรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม/ไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์รายต่างๆ เดินหน้าลงทุนในรถยนต์ไฟฟ้า พวกเขาก็ยังคงผลิตรถกระบะและรถอเนกประสงค์ ซึ่งเป็นกลุ่มรถยนต์ที่เป็นที่ต้องการของตลาด เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค กลุ่มรถยนต์ดังกล่าวกำลังได้รับการพลิกโฉมด้วยความก้าวล้ำของจีเอ็มในด้านพลังงานไฟฟ้าและเชื้อเพลิงทางเลือกในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ...
รถยนต์ต่างประเทศ

วอลโว่ เฮ !  ทำยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์

 วอลโว่ คาร์ ประกาศความสำเร็จผลการดำเนินธุรกิจในปี 2018 ที่ผ่านมา ด้วยยอดจำหน่ายรถยนต์มากที่สุดเป็นประวัติการณ์สูงกว่า 600,000 คันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1927 โดยในปี 2018 บริษัทมียอดจำหน่ายรถยนต์ทั่วโลกมากถึง 642,253 คัน คิดเป็นอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 12.4% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2017 ที่สามารถจำหน่ายได้ 571,577 คัน โดยปี 2018 นับเป็นปีที่ 5 ติดต่อกันที่วอลโว่มียอดจำหน่ายรถยนต์ทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สถิติยอดขายในปี 2018 แสดงให้เห็นถึงความต้องการของผู้บริโภคที่มีต่อกลุ่มผลิตภัณฑ์รถยนต์รุ่นใหม่ของวอลโว่ โดยกลุ่มสินค้าที่มียอดจำหน่ายสูงสุดเป็นกลุ่มประเภทรถเอสยูวีเจ้าของรางวัลในตลาดภูมิภาคชั้นนำของโลก ทั้งสหรัฐอเมริกา จีน และยุโรป โดยเฉพาะในเดือนธันวาคม 2018 วอลโว่สามารถจำหน่ายรถยนต์ทั่วโลกได้มากถึง 60,157 คัน เพิ่มขึ้น 2.8% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับตลาดประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างเดือนมกราคม – ธันวาคม 2018 วอลโว่มียอดจำหน่ายรถยนต์อยู่ที่ 98,263 คัน เพิ่มขึ้นถึง 20.6% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ความสำเร็จนี้เกิดจากความต้องการประเภทรถเอสยูวีที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเป็นรุ่น XC60 ที่จำหน่ายได้มากที่สุด ส่วนรุ่น S60 ซึ่งดำเนินการผลิตในสหรัฐฯ ได้เริ่มทำการจัดส่งไปยังบรรดาผู้แทนจำหน่ายแล้ว และคาดว่าจะช่วยเพิ่มยอดจำหน่ายของปี 2019 ได้เป็นอย่างมาก เฉพาะเดือนธันวาคม 2018 วอลโว่สามารถจำหน่ายรถยนต์ในสหรัฐฯ ได้ถึง 8,826 คัน ส่วนยอดจำหน่ายในจีนตลอดทั้งปีอยู่ที่ 130,593 คัน เติบโตขึ้น 14.1% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยความต้องการสูงสุดเป็นรถยนต์รุ่นที่ประกอบในประเทศจีนอย่าง XC60 และ S90 ซึ่งเฉพาะในเดือนธันวาคมเพียงเดือนเดียว สามารถจำหน่ายได้ถึง 11,868 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 17.9% ตลาดยุโรปรายงานผลการประกอบการที่ดีเยี่ยมในปีนี้เช่นกัน โดยตลอดระยะเวลา 12 เดือนจำหน่ายได้กว่า317,838...
นวัตกรรม

ฮาร์ลีย์ฯเผยโฉม“ไลฟ์ไวร์”  มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นแรก

ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน™ผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ชั้นนำระดับโลกสัญชาติอเมริกันซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 115 ปี จัดแสดงนวัตกรรมมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเจเนอเรชั่นแรกของแบรนด์ภายใต้ชื่อ “ไลฟ์ไวร์ (LiveWire)” ภายในงานConsumer Electronics Show เมืองลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา พร้อมเปิดเผยรายละเอียดฟังก์ชั่นการทำงาน ประสิทธิภาพการเชื่อมต่อ และเทคโนโลยีขั้นสูงของตัวรถและราคา โดยเชื่อมั่นว่า ไลฟ์ไวร์จะเป็นมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นแรกของฮาร์ลีย์-เดวิดสันที่มอบประสบการณ์การเดินทางที่ผสานประสาทสัมผัสของนักขี่ให้เป็นหนึ่งเดียวกับมอเตอร์ไซค์อย่างแท้จริง โดยบริษัทกำหนดวันวางจำหน่ายและส่งมอบรถแก่ลูกค้าภายในปีนี้ มอเตอร์ไซค์รุ่นไลฟ์ไวร์แสดงให้เห็นถึงอนาคตของแบรนด์ฮาร์ลีย์-เดวิดสันในการนำเสนอการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง ภายใต้ดีไซน์คลาสสิก และการเชื่อมต่อออนไลน์กับผู้ขับขี่ในปัจจุบัน ไลฟ์ไวร์คือมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นแรกที่มอบประสบการณ์การเดินทางแบบสองล้อรูปแบบใหม่ ด้วยอัตราเร่งที่แรงเร้าใจ การควบคุมที่ฉับไวคล่องตัว โดดเด่นด้วยวัสดุและการเคลือบสีระดับพรีเมียมในทุกชิ้นส่วน มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกในการขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้าเต็มอัตราและอินเตอร์เฟซเพื่อมอบประสบการณ์การเชื่อมต่ออันไร้ที่ติ ไลฟ์ไวร์มอบประสิทธิภาพการขับขี่ขั้นสูงเพื่อนำเสนอประสบการณ์การเดินทางอันน่ารื่นรมย์สำหรับนักขี่ตัวจริง และในขณะเดียวกันด้วยการออกแบบเป็นมอเตอร์ไซค์แบบไม่มีคลัทช์ จึงทำให้นักขี่มือใหม่สามารถควบคุมรถได้อย่างง่ายดายด้วยเช่นกัน การเปิดตัวมอเตอร์ไซค์รุ่นไลฟ์ไวร์นี้ถือเป็นการส่งเสริมการดำเนินงานตามวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ปี 2027 ของฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ในการยืนหยัดธุรกิจในสหรัฐอเมริกัน การเร่งอัตราการเติบโตในตลาดต่างประเทศ การดึงดูดและสร้างนักขี่รุ่นใหม่ในประเทศต่าง ๆ และการเสริมสร้างให้บริษัทก้าวขึ้นสู่สถานะผู้นำในอุตสาหกรรมระบบไฟฟ้าสำหรับยานยนต์สองล้อแห่งอนาคต “เรากำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อบนหน้าประวัติศาสตร์แห่งวิวัฒนาการการเดินทาง และฮาร์ลีย์-เดวิดสันก็อยู่แนวหน้าของเรื่องนี้” นายแมตต์ลาวาทิชประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารฮาร์ลีย์-เดวิดสัน™กล่าว “นวัตกรรมที่ขับเคลื่อนทั้งร่างกายและจิตวิญญาณถือเป็นหัวใจสำคัญของแบรนด์ฮาร์ลีย์-เดวิดสันมาโดยตลอด และการเดินทางบทใหม่ในหน้าประวัติศาสตร์ของเราครั้งนี้ ก็คือการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และโอกาส ทั้งเพื่อนักขี่มอเตอร์ไซค์ในปัจจุบันและนักขี่หน้าใหม่ในทุกระดับอายุและทุกวิถีชีวิต” ไลฟ์ไวร์คือการผสมผสานที่สมบูรณ์แบบของขุมพลัง ประสิทธิภาพ และเทคโนโลยีการขับขี่ ที่เปิดกว้างสำหรับนักขี่มอเตอร์ไซค์หน้าใหม่ และมอบความเร้าใจสุดพลังแก่นักขี่ตัวจริง ด้วยการนำเสนอฟีเจอร์สุดล้ำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอัตราเร่งแรงเร้าใจ โดยไลฟ์ไวร์สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 60 ไมล์ต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 3.5 วินาที ด้วยระบบส่งกำลังไฟฟ้าH-D Revelation จึงมอบแรงบิดได้เต็ม 100% ในทันทีที่บิดคันเร่งและคงแรงบิดแบบเต็มร้อยได้ทุกเวลาที่ต้องการ   นอกจากนี้ ยังขับขี่ง่ายสไตล์ Twist-and-go: เนื่องจากระบบไฟฟ้าไม่ต้องใช้คลัทช์และการเปลี่ยนเกียร์ ทำให้ไลฟ์ไวร์เป็นมอเตอร์ไซค์ที่ง่ายต่อการขับขี่สำหรับมือใหม่ มาพร้อมระบบชาร์จอัตโนมัติเมื่อผู้ขับเบรกเพื่อสร้างพลังงานสำหรับนำกลับมาใช้ใหม่โดยจะประจุไฟเข้าสู่แบตเตอรี่ จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการขับขี่ในเขตเมืองใหญ่ที่ต้องหยุดรถและออกตัวบ่อยครั้ง ไลฟ์ไวร์ติดตั้งระบบH-D Connect ซึ่งเชื่อมต่อนักขี่เข้ากับมอเตอร์ไซค์ผ่านหน่วยควบคุมเทเลแมติกส์บนคลื่นความถี่แอลทีอี (LTE-enabled Telematics Control Unit) พร้อมการเชื่อมต่อและบริการคลาวด์ด้วยแอปพลิเคชั่นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดของฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ด้วยระบบ H-D Connect นี้ ข้อมูลการขับขี่จะถูกเก็บรวบรวมและส่งต่อไปยังแอปพลิเคชั่นเพื่อนำเสนอชุดข้อมูลในสมาร์ทโฟน ซึ่งครอบคลุมข้อมูลด้านต่าง ๆ ได้แก่ ○            สถานะของมอเตอร์ไซค์:ระบบ H-D Connect จะบอกสถานะแบตเตอรี่และระยะทางที่เดินทางไปถึงได้จากที่ตำแหน่งตั้งหากมีสัญญาณโทรศัพท์เข้าถึง...
1 18 19 20 21 22 25
Page 20 of 25