
เกรท วอลล์ มอเตอร์ เฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปี ของ HAVAL H6 ที่เมืองเฉิงตู ประเทศจีน เมื่อวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา พร้อมประกาศความสำเร็จด้วยยอดขายสะสมกว่า 3.5 ล้านคัน ทั่วโลก และเผยโฉมรถยนต์เอสยูวีรุ่นใหม่อีก 2 รุ่น พร้อมกัน ได้แก่ HAVAL H6 Supreme+ และ HAVAL H6Sเดินหน้าส่งมอบผลิตภัณฑ์และประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับในฐานะแบรนด์เอสยูวีชั้นนำระดับโลก
เกรท วอลล์ มอเตอร์ ฉลองความสำเร็จ ครบรอบ 10 ปี ของรถยนต์เอสยูวียอดนิยมอย่าง HAVAL H6 ซึ่งนับเป็น “รถยนต์เอสยูวีอัจฉริยะสำหรับการขับขี่ในเมือง” (Intelligent Urban SUV) รุ่นแรกจากแบรนด์ HAVAL โดยเริ่มผลิตและจำหน่ายในปี พ.ศ. 2554 นับเป็นการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับรถยนต์เอสยูวี ที่เพียบพร้อมทั้งการใช้งานและฟังก์ชั่นอย่างครบครัน ภายใต้แนวคิดการออกแบบรถยนต์อัจฉริยะเพื่อตอบโจทย์การใช้งานทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองหรือการออกเดินทางท่องเที่ยวระยะไกล ซึ่ง HAVAL ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องในการสร้างสรรค์และส่งมอบ HAVAL H6 กว่า 3 เจนเนอเรชั่น ในตลอดช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา
หลังจากการทดสอบอย่างเข้มข้น HAVAL H6 ได้เริ่มทำตลาดและสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ของจีนด้วยการขึ้นเป็นรถยนต์เอสยูวีที่มียอดขายสูงสุดเป็นอันดับ 1 ต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลาหลายปี ถือเป็น “รถยนต์ระดับตำนานแห่งชาติ” ของประเทศจีน (National Legendary Vehicle) รวมถึงการสร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้กับรถยนต์เอสยูวีในตลาดโลก ด้วยยอดขายรวมสะสมตลอด 10 ปีที่ผ่านมากว่า 3.5 ล้านคันทั่วโลก และ HAVAL H6 เคยติดอันดับ TOP5 รถยนต์เอสยูวีที่มียอดขายรวมสูงสุดในตลาดโลกในปี พ.ศ. 2560 รวมไปถึงการติดอันดับ TOP10 รถยนต์เอสยูวียอดนิยมในระดับโลกเป็นเวลา 8 ปีซ้อน ในช่วงปี พ.ศ.2556 – 2563 การันตีคุณภาพและความไว้วางใจที่ได้รับจากผู้ใช้งานทั่วโลก
HAVAL H6 เจนเนอเรชั่น 3 ยกระดับรถเอสยูวีให้ทันสมัยพร้อมชูเอกลักษณ์อันโดดเด่นท่ามกลางความสำเร็จอย่างต่อเนื่องทั้งในตลาดจีนและตลาดทั่วโลก HAVAL ยังคงเดินหน้าพัฒนารถยนต์เอสยูวี HAVAL H6 อย่างไม่หยุดยั้ง โดยรถยนต์เจนเนอเรชั่นล่าสุดอย่าง HAVAL H6 เจนเนอเรชั่น 3 (HAVAL H6 3rd Generation) ซึ่งเผยโฉมเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2563 นับเป็นโมเดลที่ได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบจาก HAVAL H6 ทั้ง 2 เจนเนอเรชั่นก่อนหน้านี้ ถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่อีกครั้ง ด้วยการออกแบบภายนอกที่สะท้อนแนวคิด New Eastern Futuristic Aesthetic ที่ผสานสุนทรียศาสตร์ปรัชญาตะวันออกกับเทคโนโลยีแห่งโลกอนาคต ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกเปี่ยมไปด้วยความล้ำสมัยและความงามอันโฉบเฉี่ยวพร้อมสะกดทุกสายตาเติมเต็มความต้องการของผู้ใช้งานทั่วโลกทั้งในด้านรสนิยมและเทคโนโลยีได้อย่างลงตัว
HAVAL H6 เจนเนอเรชั่น 3 ยังมาพร้อมขุมพลังใหม่แบบไฮบริดเพื่อโลกอนาคตที่ยั่งยืน ด้วยเครื่องยนต์ 2.0GDIT ที่อัปเกรดอย่างสมบูรณ์ พร้อมระบบส่งกำลังแบบ 7DCT เจนเนอเรชั่น 2 (2nd Generation 7DCT transmission) และระบบแชสซีที่สามารถควบคุมการขับขี่ได้ดียิ่งขึ้นและมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการพัฒนารถยนต์บนแพลตฟอร์มอัจฉริยะ GWM LEMON ที่มาพร้อมระบบเกียร์ DHT (Dedicated Hybrid Transmission) ส่งผลให้ตัวถังมีน้ำหนักเบา ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด 14.5% และส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด
นอกจากนี้ HAVAL H6 เจนเนอเรชั่น 3 ยังได้รับการอัปเกรดทั้งในด้านความชาญฉลาดและประสิทธิภาพการทำงานด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะที่จะทำให้รถยนต์กลายเป็นเพื่อนคู่คิดและสามารถสื่อสารกับผู้ขับขี่ได้อย่างยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาจอ HUD แบบสีอัจฉริยะ ซึ่งปกติจะมีเฉพาะในรถยนต์หรูรุ่นท็อปเท่านั้น แต่ HAVAL H6 เจนเนอเรชั่น 3 ได้นำหน้าจอ HUD นี้มาใช้เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ทราบถึงสภาวะต่างๆ ของรถและสภาพถนนขณะขับขี่ได้แบบเรียลไทม์ โดยไม่ต้องละสายตาจากการมองท้องถนนไปยังด้านหน้า และยังมีหน้าจอที่แสดงระบบการช่วยจอดรถอัตโนมัติในทุกๆ ทิศทางโดยที่ผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องพยายามจอดรถแบบต่างๆ ด้วยตนเองอีกต่อไป รวมไปถึงยังมีระบบช่วยขับขี่อัตโนมัติระดับ 2 (L2) และการอัปเกรดระบบความปลอดภัยที่ทำงานร่วมกันกับเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและสร้างความอุ่นใจในการขับขี่มากยิ่งขึ้น
เนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปี ของ HAVAL H6 นี้ ได้มีการเผยโฉมรถยนต์เอสยูวีรุ่นใหม่พร้อมกันถึง 2 รุ่น ได้แก่ HAVAL H6S มาพร้อมดีไซน์คูเป้แบบใหม่ที่โฉบเฉี่ยวและให้ความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น อัดแน่นด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ไฮบริด DHT 2.0T มีระบบการใช้พลังงาน 2 รูปแบบ ได้แก่ การใช้พลังงานเชื้อเพลิงแบบ 2.0T และ LEMON Hybrid DHT และ HAVAL H6 Supreme+ ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ด้านหน้าที่ให้ความเร้าใจและเคร่งขรึมมากยิ่งขึ้น ซึ่งรถยนต์เอสยูวีรุ่นใหม่ทั้ง 2 รุ่นนี้ ยังเป็น 2 ใน 12 รถยนต์รุ่นใหม่ ที่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ นำไปจัดแสดงในงาน เฉิงตู มอเตอร์ โชว์ ครั้งที่ 24 หนึ่งในมหกรรมยานยนต์สุดยิ่งใหญ่แห่งปีของประเทศจีน โดยเปิดให้ผู้เข้าชมงานได้เข้าไปยลโฉมและสัมผัสรถยนต์รุ่นต่างๆ อย่างใกล้ชิดไปจนถึงวันที่ 7 กันยายน นี้ ณ Western China International Expo City เมืองเฉิงตู สาธารณรัฐประชาชนจีน