กิจกรรม & CSRรถยนต์ในประเทศ

นิสสัน พร้อมจำหน่าย จีที-อาร์ ที-สเปค ในประเทศไทย

306views

ซูเปอร์คาร์รุ่นพิเศษ เปิดให้จองแล้ววันนี้ พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษจากนิสสัน กรุงไทย นิสสัน ไฮเพอร์ฟอร์มแมนซ์ เซ็นเตอร์ ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการแห่งเดียวในประเทศไทย

นิสสัน ประเทศไทย พร้อมจำหน่าย นิสสัน จีที-อาร์ ที-สเปค (GT-R T-spec) ในประเทศไทย โดยเปิดให้จองแล้ววันนี้ที่นิสสัน กรุงไทย ผู้จำหน่าย จีที-อาร์ อย่างเป็นทางการแห่งเดียวในประเทศไทย ตามมาตรฐานศูนย์บริการรถยนต์สมรรถนะสูงของนิสสัน หรือ นิสสัน ไฮเพอร์ฟอร์มแมนซ์ เซ็นเตอร์ (Nissan High-Performance Center – NHPC) โดย จีที-อาร์ ที-สเปค คันแรก พร้อมส่งมอบให้กับลูกค้าชาวไทยภายในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2564 โดยลูกค้าสามารถพบนิสสัน จีที-อาร์ ที-สเปค ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 38 (Thailand International Motor Expo 2021)

จีที-อาร์ ที-สเปค เป็นรุ่นพิเศษที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในญี่ปุ่นเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีการปรับปรุงสมรรถนะและดีไซน์ ด้วยเบรกคาร์บอนเซรามิก สปอยเลอร์หลังแบบคาร์บอนไฟเบอร์ ฝาครอบเครื่องยนต์พิเศษสำหรับรุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น และตราสัญลักษณ์รุ่น ที-สเปค ลิมิเต็ด อิดิชั่น ที่ด้านหน้าและด้านหลัง ล้ออัลลอยฟอร์จจาก RAYS สีบรอนซ์ขนาด 20 นิ้ว และสีตัวถังใหม่ 2 สี ได้แก่ สีม่วง มิดไนท์ เพอร์เพิล (Midnight Purple) และสีเขียว มิลเลนเนียม เจด (Millennium Jade) ควบคู่ไปกับสีหลักอื่น ๆ อีก 4 สี ภายในตกแต่งเฉพาะด้วยสีเขียว โมริ กรีน (Mori Green) และมีเบาะนั่งหุ้มด้วยหนังกลับ ภายในหลังคาใช้วัสดุอัลคันทาร่า (Alcantara) และสัญลักษณ์ T-spec บริเวณคอนโซล“เรารับทราบถึงความต้องการอย่างชัดเจนจากแฟน ๆ ของจีที-อาร์ ในประเทศไทยว่าพวกเขาต้องการรถในตำนานคันนี้ ดังนั้นผมจึงรู้สึกตื่นเต้นที่นิสสัน ประเทศไทย พร้อมส่งมอบ จีที-อาร์ รุ่น ที-สเปค ให้กับลูกค้าของเรา” อิซาโอะ เซคิกุจิ ประธาน นิสสัน ประเทศไทย กล่าว “สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความพิเศษอย่างมีสไตล์อันโดดเด่น จีที-อาร์ ทุกคันจากผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ นอกจากมาพร้อมสมรรถนะการขับขี่ ยังมีการปรับแต่งให้เหมาะสมกับการใช้งานในประเทศไทย เพื่อให้ความเพลิดเพลินในการขับขี่สูงสุด จีที-อาร์ เป็นยานยนต์ที่สวยงามและน่าตื่นเต้นอย่างแท้จริง”

สำหรับชื่อรุ่น T-spec มาจากปรัชญาของจีที-อาร์ ในการเป็นผู้นำ และผู้กำหนดเวลา โดยได้รับแรงบันดาลใจจากคำว่า “trend” และ “traction” ที่หมายถึงการยึดเกาะถนน ในฐานะผู้กำหนดเทรนด์ จีที-อาร์ ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ล้ำหน้าอยู่เสมอ และมีสมรรถนะของรถในการขับขี่ด้วยการยึดเกาะที่ยอดเยี่ยม โดยทีมวิศวกรได้มุ่งมั่นทำงานอย่างหนักมาโดยตลอด ดังนั้นรถรุ่นนี้จึงโดดเด่นด้านการยึดเกาะถนนอย่างแท้จริง

สมรรถนะของจีที-อาร์ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์แบบ V6 24 วาล์ว ขนาด 3.8 ลิตร ทวินเทอร์โบชาร์จ เครื่องยนต์ทุกเครื่องประกอบด้วยมือจากช่างเทคนิคระดับสูงสุดของจีที-อาร์ หรือ ‘ทาคูมิ’ มอบความประณีตและสมรรถนะอันทรงพลัง ให้พละกำลังสูงสุด 555 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 632 นิวตันเมตร กำลังของเครื่องยนต์ถูกส่งไปยังล้อทั้งสี่ล้อผ่านชุดเพลาส่งกำลังขับเคลื่อนในระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ

“ทีมงาน และ บุคลาการที่มีประสบการณ์ของนิสสัน กรุงไทย ได้รับการฝึกฝนความชำนาญเพื่อดูแลลูกค้าจีที-อาร์ ชาวไทยโดยเฉพาะ เพื่อให้ทุก ๆ ท่านได้รับบริการที่สมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับรถยนต์ที่เป็นไอคอนคันนี้ และในฐานะที่เป็นศูนย์บริการรถสมรรถนะสูงของนิสสัน แห่งเดียวในประเทศไทย มาตรฐานบริการหลังการขายของเราได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อดูแลจีที-อาร์ อย่างดีที่สุด เราตื่นเต้นและพร้อมส่งมอบ จีที-อาร์ ใหม่ รุ่น ที-สเปค ให้กับลูกค้าของเรา” พิสิทธิ์ จันทรเสรีกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท นิสสันกรุงไทย จำกัด กล่าว

นอกจากรุ่น ที-สเปค ใหม่แล้ว นิสสัน จีที-อาร์ ยังมีรุ่น Premium Luxury ซึ่งมาพร้อมสีภายนอก 6 สี ได้แก่ สีฟ้า เบย์ไซด์ บลู (Bayside Blue) สีแดง แวเรียนต์ เรด (Variant Red) สีเงิน ซูเปอร์ ซิลเวอร์ (Super Silver) สีขาว สตอร์ม ไวท์ (Storm White) สีเทา กัน เมทาลิค (Gun Metallic) และสีดำ แบล็ค (Pearl Black) ขณะที่การตกแต่งภายในของรุ่น Premium Luxury มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีเทา เออเบิร์น เกรย์ (Urban Grey) สีแดง แอมเบอร์ เรด (Amber Red) และ สีดำ ซามูไร แบล็ค (Samurai Black)

จีที-อาร์ ใหม่ รุ่น ที-สเปค ราคา 12.2 ล้านบาท มาพร้อมกับการรับประกันของนิสสัน ซึ่งครอบคลุมระยะเวลา 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยช่างเทคนิคที่ได้รับการฝึกอบรมจากประเทศญี่ปุ่น ศูนย์บริการรถยนต์สมรรถนะสูงของนิสสัน มอบการบริการลูกค้าที่ดีที่สุด ด้วยอะไหล่แท้ของนิสสัน จีที-อาร์ นอกจากนี้ นิสสัน จีที-อาร์ รุ่น Premium Luxury ราคา 10.7 ล้านบาท

บรรณาธิการ Buzzbiz
อดีตผู้สื่อข่าวภูมิภาค เศรษฐกิจ รถยนต์ ที่เดินทางอยู่บนฐานันดอน 4 มานาน นับ30 ปี