นิสสัน ขยายโครงการ Blue Switch สู่ภูมิภาคอาเซียน ร่วมจัดการปัญหาทางสังคมผ่านการใช้ประโยชน์จากความสามารถของรถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นได้มากกว่ายานพาหนะ
ในเดือนพฤศจิกายน 2564 นิสสัน ประกาศวิสัยทัศน์ระยะยาว Nissan Ambition 2030 ที่จะส่งมอบความเป็นเลิศในทุก ๆ ด้าน พร้อมยกระดับการเดินทางและชีวิตผู้คนในสังคมด้วยการขับเคลื่อนด้วยรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและนวัตกรรมทางเทคโนโลยี โครงการ Blue Switch ซึ่งถูกริเริ่มในปี 2561 ที่ประเทศญี่ปุ่นถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ส่งเสริมให้แผนการนี้สำเร็จได้ตามเป้าหมาย
“นิสสันเป็นผู้บุกเบิกรถยนต์ไฟฟ้าและมุ่งมั่นพัฒนาแนวทางใหม่ ๆ เพื่อนำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการสร้างสังคมที่ไร้มลพิษอย่างยั่งยืน การขับเคลื่อนด้วยรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจะเป็นกลยุทธ์สำคัญสำหรับภูมิภาคอาเซียน โครงการ Blue Switch ในภูมิภาคอาเซียนจะเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ระยะยาวของนิสสันที่จะทำให้รถยนต์เป็นมากกว่ายานพาหนะ” อิซาโอะ เซคิกุจิ ประธานนิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย และรองประธานสายงานการตลาด และการขาย นิสสัน ภูมิภาคอาเซียน กล่าว
“นิสสันเดินหน้าสร้างความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์กับทั้งหน่วยงานภาครัฐและพันธมิตรในประเทศไทย ฟิลิปปินส์ และตลาดอื่น ๆ ในภูมิภาคอาเซียนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้”
โครงการ Blue Switch ส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพื่อช่วยเหลือชุมชน ทั้งในด้านการบรรเทาภัยพิบัติ และการจัดการพลังงานการบรรเทาภัยพิบัติ ตัวอย่างของการดำเนินการตามวิสัยทัศน์ของนิสสันในการนำรถยนต์ไฟฟ้าให้เกิดประโยชน์ เช่น การนำพลังงานไฟฟ้าจากนิสสัน ลีฟ มาใช้ในยามขาดแคลนไฟฟ้าขณะประสบภัยธรรมชาติ เช่น พายุไต้ฝุ่น ไร ในประเทศฟิลิปปินส์ โดย นิสสัน ลีฟ สามารถช่วยเหลือชุมชนที่ได้รับความเดือดร้อนในเมืองเซบู และทาโคลบัน ด้วยแบตเตอรี่ความจุสูงที่สามารถชาร์จโทรศัพท์มือถือได้ถึง 1,000 เครื่อง
การใช้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นแหล่งพลังงานเคลื่อนที่เพื่อจ่ายพลังงานไฟฟ้าให้กับที่อยู่อาศัย และชุมชน โดย นิสสัน ได้เปิดศูนย์การเรียนรู้ด้านยานยนต์ไฟฟ้า หรือ Nissan Electrification Experience Center ที่โรงงานผลิตรถยนต์นิสสัน ในจังหวัดสมุทรปราการ ประเทศไทย สถานที่แห่งนี้จะเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และมอบประสบการณ์แก่สาธารณะด้านบทบาทของรถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นได้มากกว่ายานพาหนะ ซึ่งศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรของโครงการ อาทิ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และ บริษัท นิจิคอน (ประเทศไทย) จำกัด
นอกจากนี้ นิสสันยังส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนในโรงงานผลิต ซึ่งเป็นหนึ่งในความพยายามลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการผลิต ด้วยการติดตั้งโซลาร์เซลล์บนหลังคาโรงงานที่ 2 ของนิสสัน ประเทศไทย ซึ่งสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าโดยคิดเป็นสัดส่วนถึง 1 ใน 3 ของกระแสไฟฟ้าทั้งหมดที่ใช้ในโรงงานผลิต การผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และมลพิษได้ถึง 400 ตัน เทียบเท่ากับการปล่อยก๊าซจากรถยนต์ 86 คัน หรือการปลูกต้นไม้ 566 ต้นภายในหนึ่งเดือน
นิสสัน ยังร่วมส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมสำคัญของภูมิภาคด้วยการศึกษาช่องทางการใช้ประโยชน์จากรถยนต์ไฟฟ้าที่ไร้มลพิษ และเพิ่มประสิทธิภาพของเครือข่ายการคมนาคมในท้องถิ่น ตัวอย่างเช่น นิสสัน ร่วมกับกรมการท่องเที่ยว ประเทศฟิลิปปินส์ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ผ่านแคมเปญ Safe Trips