เกรท วอลล์ มอเตอร์ และวิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ทางการศึกษาเพื่อสร้างโอกาสและสร้างเสริมประสบการณ์การทำงานจริงในอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้าให้กับนักศึกษา ก่อนเข้าสู่โลกแห่งธุรกิจในชีวิตจริง พร้อมต่อยอดความร่วมมือสู่การจัดกิจกรรมรูปแบบต่างๆ ในอนาคต ตอกย้ำภารกิจของบริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก (Global Intelligent Technology Company) ภายใต้ความมุ่งมั่นที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าของไทย (xEV Leader) ซึ่งพร้อมให้ความร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ ควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจเพื่อเติบโตเคียงข้างสังคมอย่างมั่นคงและยั่งยืน
พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือได้รับเกียรติจาก มร. ไมเคิล ฉง ผู้จดการทั่วไป มร. ไมเคิล จาง ผู้อำนวยการฝ่ายการสื่อสารแบรนด์ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ อัครพงษ์ ค่ำคูณ คณบดี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. มณฑิณี รัตนปรีชาเวช รองคณบดีฝ่ายวิจัยและวิเทศสัมพันธ์ และนายชัยพร ปิ่นงาม รักษาการหัวหน้างานกิจการนักศึกษา วิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นผู้ลงนามและร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีดังกล่าว ณ บูธ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 ที่ผ่านมา โดยในโอกาสเดียวกันนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังได้ประกาศให้การสนับสนุนการแข่งขันแก้ไขปัญหาทางธุรกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก Thammasat Undergraduate Business School (TUBC) ซึ่งเป็นเสมือนเวทีที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยชั้นนำจากนานาประเทศได้ประชันความรู้ความสามารถและทักษะการคิดวิเคราะห์อีกด้วย
มร. ไมเคิล ฉง ผู้จดการทั่วไป เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “นับตั้งแต่ก้าวแรกของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ จนเข้าสู่ปีที่ 2 ของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เราได้เห็นศักยภาพที่ควรค่าแก่การผลักดันของคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะนิสิตนักศึกษาที่จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยในมิติต่างๆ ซึ่งรวมไปถึงการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้าให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้าของภูมิภาคอาเซียนในอนาคต เราจึงมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับวิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในหลากหลายด้านซึ่งถือเป็นก้าวย่างสำคัญสำหรับการพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้าและแวดวงการศึกษาของไทยที่จะได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญ ตลอดจนสร้างสรรค์กิจกรรมรูปแบบต่างๆ ร่วมกัน ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้นักศึกษาไทยได้ขยายขอบเขตการเรียนรู้และเก็บเกี่ยวประสบการณ์อันล้ำค่าเพื่อยกระดับความสามารถให้พร้อมสำหรับการปฏิบัติงานและการใช้ชีวิตหลังสำเร็จการศึกษา ท่ามกลางการแข่งขันแบบไร้พรมแดนของโลกยุคปัจจุบัน สอดรับกับการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมในภาพรวมภายใต้แนวคิด “GWM Together” ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างคุณค่าร่วมกัน (Co-Creation) ระหว่าง เกรท วอลล์ มอเตอร์ และพันธมิตรทุกภาคส่วนเพื่อให้เกิดการพัฒนาทางด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม สืบสานความหลากหลายทางวัฒนธรรม และเพิ่มขีดความสามารถด้านนวัตกรรมอย่างยั่งยืน”
“ความร่วมมือระหว่าง เกรท วอลล์ มอเตอร์ และวิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัธรรมศาสตร์ในโอกาสนี้ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการเติมเต็มประสบการณ์ในการทำงานของบุคลากรทั้งสองฝ่าย ทั้งยังเป็นการวางรากฐานพันธมิตรที่แข็งแกร่งระหว่างองค์กรระดับโลกกับสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำที่อยู่เคียงข้างสังคมไทยมาอย่างยาวนาน โดยจะสามารถต่อยอดไปสู่การจัดกิจกรรมรูปแบบต่างๆ ร่วมกันในอนาคต ตลอดจนเปิดประตูบานใหม่ให้กับน้องๆ นักศึกษาที่มีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์ที่กำหนดได้เข้ามาฝึกงานกับ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ซึ่งแน่นอนว่านักศึกษาที่มีความสามารถและมีความประพฤติเหมาะสมจะมีโอกาสได้ร่วมงานกับเราหลังจบการศึกษาอีกด้วย” มร. ฉง กล่าวเสริม
นอกจากนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังได้เป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการสำหรับการแข่งขัน Thammasat Undergraduate Business Challenge (TUBC) ซึ่งในปีนี้เปิดพื้นที่ในรอบ The Challenger ให้นิสิตนักศึกษาระดับชั้นปริญญาตรีชาวไทยได้ท้าชิงความเป็นที่หนึ่งในระดับประเทศด้านการวิเคราะห์ปัญหาเชิงธุรกิจ ซึ่งผู้ชนะจะได้รับสิทธิ์เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขันในรอบถัดไปบนเวทีระดับนานาชาติท่ามกลางผู้ท้าชิงจากสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำทั่วโลก โดย เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะมอบโจทย์เป็นกรณีศึกษาให้กับผู้ร่วมการแข่งขันทั้งสองรอบ เพื่อนำไปวิเคราะห์หาแนวทางแก้ไขปัญหา พัฒนาและต่อยอดแผนธุรกิจที่สามารถทำได้จริง ภายใต้เงื่อนไข ทรัพยากร และระยะเวลาที่กำหนด แล้วนำเสนอให้กับคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิดำเนินการตัดสิน
เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในฐานะ “บริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก” (Global Intelligent Technology Company) ไม่เพียงจะมุ่งมั่นขับเคลื่อนเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของไทย แต่ยังให้ความสำคัญกับการจ้างงานและการเตรียมความพร้อมให้กับบุคลากรไทย ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรภาคส่วนต่างๆ เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่ พัฒนาทักษะทางอาชีพ และเสริมสร้างประสบการณ์ทำงานในสภาพแวดล้อมจริงให้กับเยาวชนชาวไทย เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงาน และเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ตามแนวทางการยกระดับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยได้อย่างเป็นรูปธรรม