เพื่อร่วมฉลองวันคุ้มครองโลก Earth Day ในปีนี้ นิสสัน ประเทศไทย ตอกย้ำความสำคัญของความตระหนักรู้เรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของนิสสัน ควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสังคมทั้งภายในและภายนอกองค์กร เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนและก้าวสู่เป้าหมายการสร้างสังคมคาร์บอนเป็นกลาง (Carbon Neutral)
นิสสัน ประเทศไทย ในฐานะศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ของนิสสันในอาเซียน เชื่อมั่นในพลังของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลง โดยการสรรค์สร้างนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และลงมือสร้างการเปลี่ยนแปลงที่จะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน ขณะดียวกันก็ส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน นิสสันได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าและระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า เช่น เทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ รวมทั้งการส่งเสริมให้พนักงานและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเกิดความตระหนักรู้ในด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยที่นิสสันได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรทั้งในประเทศและทั่วโลก เพื่อพัฒนากระบวนการผลิต และเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งทำให้นิสสันได้รับรางวัลอุตสาหกรรมสีเขียว ระดับที่ 4 วัฒนธรรมสีเขียว (Green Culture) จากกระทรวงอุตสาหกรรมในปี 2565 ที่ผ่านมา
นิสสัน ประเทศไทย ได้นำข้อปฏิบัติในการทำงาน และปลูกฝังจิตสำนึกของพนักงานในด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทั้งในส่วนของสำนักงานและโรงงานผลิต เพื่อช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินงานใน 4 ด้าน และพัฒนาองค์กรไปสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง ได้แก่
การคัดแยกขยะถือเป็นก้าวแรกในการรักษาสิ่งแวดล้อม เนื่องจากขยะแต่ละประเภทมีวิธีจัดการที่แตกต่างกันออกไป นิสสันจึงได้ส่งเสริมให้มีการคัดแยกขยะอย่างถูกต้องทั้งในสำนักงานและโรงงานผลิต โดยคัดแยกออกเป็นขยะรีไซเคิล ขยะทั่วไป ขยะเปียก และขยะอันตราย มีการนำขยะที่สามารถรีไซเคิลได้ไปผ่านกระบวนการรีไซเคิลเพื่อให้นำกลับมาสร้างประโยชน์ได้อีก และนำขยะที่แท้จริงไปกำจัด วิธีนี้สามารถช่วยลดปริมาณการเผาไหม้และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศ
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 นิสสันประเทศไทยริเริ่มใช้ระบบบำบัดน้ำเสียและการหมุนเวียนน้ำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ ณ โรงงาน 2 ซึ่งเป็นสายการผลิตรถเพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็ก เพื่อจัดการมลพิษทางน้ำ เริ่มจากการนำเทคโนโลยีบำบัดน้ำเสียแบบ Recycle Reverse Osmosis System มาใช้ในโรงงาน ซึ่งช่วยให้นำน้ำเสียจากกระบวนการผลิตที่บำบัดแล้วกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งได้รับประโยชน์จากการนำน้ำที่รีไซเคิลแล้ววันละกว่า 300 ลูกบาศก์เมตรมาใช้ในโรงงาน 2 ทำให้ไม่ต้องมีการปล่อยน้ำเสียสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ
นิสสัน ได้จัดกิจกรรมการปลูกต้นไม้ในพื้นที่โรงงานบนถนนบางนา-ตราด ก.ม. 21 และ 22 จ.สมุทรปราการ เพื่อเพิ่มอากาศบริสุทธิ์และพื้นที่สีเขียวให้กับสังคม ปัจจุบันพนักงานของนิสสันได้ร่วมกันปลูกต้นไม้ไปแล้วมากกว่า 900 ต้นในโครงการนี้ ช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจน ลดปริมาณฝุ่น pm 2.5 และช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ
ระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา คือ อีกหนึ่งนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนให้โรงงานผลิตรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ของนิสสันเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนมากขึ้น ด้วยการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาซึ่งมีพื้นที่มากกว่า 60,000 ตารางเมตร มีกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้าสูงถึง 5.5 เมกะวัตต์เพื่อใช้ในการผลิต ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดพลังงานแล้ว ยังช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 5,100 ตันต่อปี ทำให้นิสสันเป็นหนึ่งในโรงงานในประเทศไทยที่มีฐานการผลิตพลังงานทดแทนจากแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดและสามารถนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้อย่างเป็นรูปธรรมมากที่สุดในอุตสาหกรรมยานยนต์
“สำหรับนิสสันแล้ว ทุกๆ วัน คือวันคุ้มครองโลก คือวัน Earth Day นิสสันในประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนธุรกิจของเราไปข้างหน้าพร้อมกับเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันสังคมที่คาร์บอนเป็นกลาง นิสสันจึงส่งเสริมให้พนักงานทุกคนได้ตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทุกๆ วัน เราทำงานอย่างครบวงจร ทั้งในด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กระบวนการผลิตที่ยั่งยืนและหลีกเลี่ยงการเกิดมลภาวะโดยไม่จำเป็น และที่สำคัญ คือ การปลูกฝังให้พนักงานของเราตระหนักรู้และร่วมมือกันลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อมจนกลายเป็นวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง ทุกสิ่งที่เราทำในวันนี้ จะนำนิสสันก้าวไปสู่อนาคตของการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ได้อย่างแท้จริง” อิซาโอะ เซคิกุจิ ประธาน นิสสัน ประเทศไทย และ ประธาน นิสสัน ภูมิภาคอาเซียน กล่าว