สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ผ่านการวัดมาตรฐานจาก สมาพันธ์จักรยานยนต์นานาชาติ (เอฟไอเอ็ม) พร้อมรองรับโมโตจีพีได้อย่างสมบูรณ์แบบ “นักบิดดาวดัง” มาร์คมาร์เกซ, วาเลนติโน รอสซี่ และ อันเดรีย โดวิซิโอโซ ชมแก้ไขทางเข้าพิตได้ดี ชี้การขี่ที่นี่ไม่ง่ายต้องวัดกันทุกช่วง ขณะสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมรองรับแฟนจากทั่วโลก
ศึกรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโตจีพี 2018 มีคิวดวลความเร็วครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย โดยถูกบรรจุเป็นสนามที่ 15 ภายใต้ชื่อรายการ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 5-7 ตุลาคมนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ล่าสุดเข้าสู่โปรแกรมการแข่งขันอย่างเป็นทางการในวันศุกร์ที่ 5 ตุลาคมนี้ด้วยการลงซ้อมวันแรก
โดยเมื่อช่วงเย็นวันพฤหัสบดีที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา คณะกรรมการจาก สมาพันธ์จักรยานยนต์นานาชาติ หรือ เอฟไอเอ็ม ได้นำทีมลงตรวจมาตรฐานของ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ก่อนลงมติผ่านเป็นสนามสำหรับรองรับการแข่งขัน โมโตจีพี อย่างสมบูรณ์แบบ
ขณะที่ดอร์น่า สปอร์ต ได้จัดให้มีการแถลงข่าวของนักแข่ง ก่อนเข้าสู่ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2018 โดยมีนักบิดดาวดังในศึก โมโตจีพี นำโดย มาร์ค มาร์เกซ แชมป์โลกชาวสแปนิชจาก เรปโซล ฮอนด้า, อันเดรีย โดวิซิโอโซ รองจ่าฝูงชาวอิตาเลียนจาก ดูคาติ ทีม, วาเลนติโน รอสซี่ นักบิดจอมเก๋าชาวอิตาเลียนจาก โมบิสตาร์ ยามาฮ่า โมโตจีพี รวมถึงคู่หู ซูซูกิ เอ็คสตาร์ อย่าง อันเดรีย อิอันโนเน ชาวอิตาเลียน, อเล็กซ์ รินส์ ดาวรุ่งสแปนิช และนักบิดแดนกระทิงดุอย่าง อเล็กซ์ เอสปาร์กาโร จาก อพริเลีย เรซซิ่ง ทีม
มาร์เกซ จ่าฝูงบนตารางแชมเปี้ยนชิพที่ทำความเร็วได้เป็นอันดับ 3 ในการทดสอบ วินเทอร์ เทสต์ ที่ สนามช้างฯ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเชื่อว่าในสุดสัปดาห์นี้ทุกๆ ทีมเดินทางมาที่นี่ด้วยรถแข่งที่แตกต่าง และสถานการณ์ยังไม่สามารถบอกอะไรได้มาก
“เราได้ทดสอบกันที่นี่ในช่วงวินเทอร์ แต่ผมคิดว่าทีมโรงงานทุกทีมต่างก็มาถึงที่นี่ด้วยสถานการณ์ที่แตกต่างออกไป รถแข่งที่แตกต่างจากเดิม และมันเป็นเรื่องน่าสนใจในการทำความเข้าใจว่าทุกๆ คนจะอยู่ในระดับไหน”
ด้าน โดวิซิโอโซ ที่กำลังลุ้นแชมป์โลกกับ มาร์เกซ กล่วว่า “ในส่วนแรกของสนามช้างฯ จะเป็นดินแดนของ ดูคาติ เลยก็ว่าได้ เพราะมียู่ 2 โค้ง ซึ่งเป็นโค้งความเร็วต่ำหลังทางตรงยาวๆ คล้ายๆ กับที่ เรดบูลล์ ริง แต่ในส่วนที่สองของสนามจะเป็นจุดที่ ดูคาติ มีปัญหา”
“ส่วนแรกของแทร็ก น่าจะเข้าทางเรานะ แต่ส่วนที่สองดูเหมือนเราน่าจะช้าเล็กน้อย ซึ่งเรามีปัญหาในตอนที่ทดสอบ วินเทอร์เทสต์ แต่ก็เป็นเพียงการทดสอบ ซึ่งเรายังไม่ได้ทำการแข่งขันที่นี่ ซึ่งตัวยางเองก็มีความแตกต่างจากเดิมในการทดสอบมาก สถานการณ์ของนักบิดแต่ละคนแตกต่างจากตอนที่ทดสอบค่อนข้างเยอะ ทุกๆ อย่างเกิดขึ้นได้”
“แน่นอนเราจะออกสตาร์ทเซสชั่นแรกด้วยความเร็วที่ดี และมาดูกันว่าสถานการณ์ของยางจะเป็นไปในทางไหน ในการทดสอบเราพยายามบางอย่างแต่ดูเหมือนการยึดเกาะของยาง (Grib) จะน้อยมาก ความร้อนสูง ดูเหมือนบางทีอาจจะร้อนกว่า มาเลเซีย ด้วยซ้ำ มันยากมากสำหรับทุกคน รถแข่งร้อนมากซึ่งมันจะส่งผลต่อการแข่งขันแน่นอนและยางก็เช่นกัน ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะรู้ว่ามากน้อยแค่ไหน”
เช่นเดียวกับ รอสซี่ ที่ลงความเห็นเดียวกับ โดวิซิโอโซ และกล่าวว่าการแข่งขันในประเทศไทยจะไม่ค่อยดีนักสำหรับ โมบิสตาร์ ยามาฮ่า กับการเดินทางมาในสถานการณ์ที่แตกต่างเช่นนี้
“หากดูจากข้อมูลแทร็กแล้วค่อนข้างยากเลยทีเดียว เพราะสนามนี้ไม่ใช่สนามที่ ยามาฮ่า M1 จะทำผลงานได้อย่างมหัศจรรย์ ด้วยอากาศที่ร้อนสุดๆ และมีโอกาสที่ฝนจะตกในทุกๆ วัน ดังนั้นสิ่งแรกที่เราหวังคืออย่าให้ฝนตกตอนแข่งขัน เราได้มาทดสอบที่นี่และมันก็ไม่ดีเอาเสียเลย แต่ตอนนี้เราอยู่ที่นี่ด้วยสถานการณ์ที่แตกต่างออกไป”
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังถามถึงเรื่องมาตรฐานของแทร็ก ซึ่งหลังจากที่นักบิดทุกคนมาทดสอบในช่วงวินเทอร์เทสต์ ได้มีการร้องขอให้แก้ไขบางจุดเพื่อความปลอดยภัย โดยเฉพาะทางเข้าพิตตรงโค้ง 11
มาร์เกซ กล่าวว่า “หลังจากที่เราได้ทำการทดสอบเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ก็ได้มีการพูดคุยในที่ประชุมด้านความปลอดภัยหลายจุด ซึ่งในตอนนี้พวกเขาทำงานได้ดี เรารู้สึกปลอดภัยมากขึ้นกว่าเดิมหลังจากที่ได้เดินลงไปสำรวจ และเก็บขอมูลแทร็ก”
สำหรับการแข่งขัน โมโตจีพี รายการ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2018 ออกสตาร์ทการซ้อมครั้งแรกในช่วงเช้าของวันศุกร์ที่ 5 ตุลาคมนี้ ก่อนจะซ้อมครั้งที่ 2 ในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน และควอลิฟายในวันเสาร์ที่ 6 ตุลาคมนี้ ส่วนการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคมนี้