เศรษฐกิจ

เฟ้น 12  ฟินเทคสตาร์ทอัพชิงแชมป์ “FinTech Challenge ” 

1.9kviews

ก.ล.ต. จับมือสมาคมฟินเทค  เฟ้น 12  ฟินเทคสตาร์ทอัพหน้าใหม่เข้าชิงชัยรอบชิงชนะเลิศใน “FinTech Challenge : The Discovery”  7 พฤศจิกายนนี้ ณ โรงละครเคแบงค์สยามพิฆเนศ

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)    ร่วมกับสมาคมฟินเทคประเทศไทย คัดเฟ้นได้ 12 ทีมฟินเทคสตาร์ทอัพเข้าสู่การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ “FinTech Challenge ครั้งที่ 3 : The Discovery” โครงการประกวดผลงานนวัตกรรมทางการเงิน ค้นหาผู้ประกอบธุรกิจฟินเทคสตาร์ทอัพหน้าใหม่ที่จะปฏิวัติวงการทางการเงิน ชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกันกว่า 400,000 บาท เพื่อสร้างโอกาสในการนำเสนอนวัตกรรมทางการเงินที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน โดยช่วยให้เข้าถึงบริการทางการเงินและการลงทุนได้อย่างทั่วถึงและสะดวกรวดเร็ว อันจะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศอย่างแท้จริง

นางทิพยสุดา  ถาวรามร  รองเลขาธิการ สำนักงาน ก.ล.ต. เปิดเผยว่า  “FinTech Challenge ครั้งที่ 3 : The Discovery เป็นโครงการประกวดผลงานนวัตกรรมทางการเงินที่ดำเนินการโดยสำนักงาน ก.ล.ต. ต่อเนื่องเป็นปีที่สาม  เพื่อกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรมทางการเงินใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมการเงิน การลงทุน และประกันภัยในประเทศไทย รวมถึงสร้างโอกาสในการนำเสนอนวัตกรรมที่สามารถนำไปใช้ได้ในระบบการเงิน การระดมทุน และการลงทุนเพื่อให้สอดคล้องกับยุค “ไทยแลนด์ 4.0” ในครั้งนี้สมาคมฟินเทคประเทศไทยได้ร่วมกับสำนักงาน ก.ล.ต. ในการค้นหาผู้ประกอบธุรกิจฟินเทคสตาร์ทอัพหน้าใหม่ และช่วยบ่มเพาะศักยภาพให้กับผู้เข้าร่วมโครงการ ทั้งในด้านเทคโนโลยีและการดำเนินธุรกิจจากผู้เชี่ยวชาญด้านฟินเทคที่ประสบความสำเร็จและมากด้วยประสบการณ์   ตลอดจนความรู้ด้านกฎหมายและกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง  เพื่อให้พร้อมต่อยอดธุรกิจ  หรือสามารถพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น ในต้นทุนที่ต่ำลง

ซึ่ง 12 ทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายในโครงการประกวด “FinTech Challenge ครั้งที่ 3 : The Discovery”  คณะกรรมการได้คัดเลือกโดยพิจารณาจากความคิดสร้างสรรค์ด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี ความเป็นไปได้ในการนำไปใช้งานจริง ซึ่งแต่ละทีมมีแนวคิดและนวัตกรรมที่น่าสนใจ  ทั้งในแง่มุมของเครื่องมือช่วยวางแผนการออมและการลงทุน  การพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล และการขจัดอุปสรรคการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้บริโภคและผู้ประกอบการ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมทางการเงินรวมไปถึงอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง  อันจะเป็นผลต่อภาคเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ”

ฟินเทคสตาร์ทอัพทั้ง  12  ทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย ประกอบด้วย

  1. ZeeZave: ระบบส่งเสริมการออมสำหรับคนรุ่นใหม่
  2. Digital Workforce: หุ่นยนต์ดิจิทัลสำหรับการลงทุนในตลาดอนุพันธ์
  3. FINE: แพลตฟอร์มส่งเสริมการออม ให้ความรู้ และวางแผนทางการเงิน
  4. ebizkit: เครื่องมือที่ยกระดับการซื้อขายออนไลน์ผ่านช่องทาง Chat commerce
  5. CryptovationX: หุ่นยนต์ที่ปรึกษาการลงทุนในตลาดคริปโต
  6. JFIN Coin: บล็อกเชนแพลตฟอร์มที่ให้บริการกู้ยืมเงินสำหรับคนดี
  7. Credit OK: แพลตฟอร์มเพื่อสร้าง “เครดิตสกอร์” ให้ผู้ประกอบการรายย่อย
  8. ThaiIDP: ระบบพิสูจน์และยืนยันตัวตนดิจิทัล
  9. ATOM: Retire-Care Planer วัยเกษียณที่ออกแบบได้
  10. ESPREE.IO: แพลตฟอร์มการรับชำระเงินของทุกสรรพสิ่ง
  11. WEALTHI: แอพพลิเคชั่นที่ช่วยให้ผู้ขาดโอกาสทางการเงินได้เข้าถึงแหล่งเงินทุน
  12. Skynet: ระบบ Social Trading Platform ที่รองรับ AI ทุกภาษาโปรแกรม

โดยทุกทีมจะต้องนำเสนอผลงานบนเวทีต่อหน้าคณะกรรมการ พร้อมจัดแสดงนิทรรศการด้าน FinTech ต่อผู้สนใจทั่วไป  ณ โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ สยามสแควร์ วัน ชั้น 7  ในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2561 นี้  เพื่อชิงรางวัลทุนสนับสนุน  4  ทุน ได้แก่

  1. ทุนนวัตกรรมประเภท Innovative FinTech จำนวน 200,000 บาท พร้อมโล่รางวัล สำหรับทีมที่สามารถเสนอ นวัตกรรม หรือความคิดสร้างสรรค์ ที่เป็นประโยชน์กับผู้ใช้บริการ
  2. ทุนนวัตกรรมประเภท Popular Vote จำนวน 50,000 บาท พร้อมโล่รางวัล สำหรับทีมที่ได้รับความสนใจมากที่สุด
  3. รางวัลพิเศษอื่น ๆ (ถ้ามี) เช่น ทุนสนับสนุนจากหน่วยงานพันธมิตร สิทธิ์การเข้าร่วมโครงการของพันธมิตร และสิทธิ์การใช้งานหรือได้รับการสนับสนุนในรูปแบบอื่น ๆ
  4. รางวัลชมเชย รางวัลละ 20,000 บาท

โดยทุกทีมที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศจะได้รับใบประกาศนียบัตรจากโครงการ

นอกจากนี้หน่วยงานพันธมิตรที่ร่วมสนับสนุนโครงการประกวด FinTech Challenge ครั้งที่ 3 : The Discovery ยังประกอบด้วย 1. ธนาคารแห่งประเทศไทย 2. สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย  3. สมาคมฟินเทคประเทศไทย

บรรณาธิการ Buzzbiz
อดีตผู้สื่อข่าวภูมิภาค เศรษฐกิจ รถยนต์ ที่เดินทางอยู่บนฐานันดอน 4 มานาน นับ30 ปี