เมื่อต้นปีที่ผ่านมา รถกระบะเชฟโรเลต เค10 ขับเคลื่อน 4 ล้อ ปี 1969 ที่ได้รับการซ่อมแซมและตกแต่งใหม่ถูกประมูลขายในรัฐแอริโซน่า สหรัฐอเมริกาด้วยราคา 137,500 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 4.3 ล้านบาท) ขณะที่รถกระบะคลาสสิคของเชฟโรเลตรุ่นอื่นๆ ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านความทนทานและสไตล์ที่สวยงาม ถูกประมูลด้วยจำนวนเงินที่สูงมากขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมาตามความต้องการครอบครองรถกระบะคลาสสิคที่เพิ่มสูงขึ้น
“รถกระบะคลาสสิค โดยเฉพาะรถกระบะเชฟโรเลตได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในกลุ่ม นักสะสมรถจนสามารถแข่งขันกับรถสปอร์ตมัสเซิลคาร์” เคล็ก แจ็คสัน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท บาร์เรตต์-แจ็คสัน ออคชั่น คอมพานี กล่าว “ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ นักสะสมรถต้องการรถที่มีความแตกต่างกัน รถมัสเซิลคาร์ที่ใช้ชิ้นส่วนเดิมและอยู่ในสภาพดีถือว่าน่าเก็บสะสมมากที่สุด ขณะที่รถกระบะคลาสสิคที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดคือรถคัสตอมหรือรถที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ทั้งหมด และผู้ซื้อให้ความสำคัญกับทั้งองค์ประกอบด้านการออกแบบที่โดดเด่นไม่เหมือนใครและงานฝีมือที่มีคุณภาพสูง”
ในตลาดนักสะสมรถยนต์ คำว่า “รถยนต์ชิ้นส่วนเดิม” หมายถึงรถยนต์ที่ยังคงมีชิ้นส่วนเดิมอยู่เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการประเมินมูลค่าของรถมัสเซิลคาร์คลาสสิคอย่างเชฟโรเลต คอร์เวทท์ และคามาโร แต่ในกลุ่มนักสะสมรถกระบะคลาสสิคนั้นมีความสำคัญน้อยกว่า
รถกระบะคลาสสิค อาทิ เชฟโรเลต 3100 อาปาเช่ คาเมโอ และซี/เค แห่งยุค 1950 – 1970 คือ รถกระบะที่กำลังมาแรงในตลาดนักสะสมรถยนต์ ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าเป็นเพราะรถกระบะคลาสสิคเหล่านี้มีราคาที่เหมาะสมสำหรับคนส่วนใหญ่ที่เพิ่งเริ่มเข้าสู่วงการสะสมรถยนต์
“หนึ่งในเสน่ห์ของรถกระบะโบราณเชฟโรเลต คือโอกาสที่จะได้สร้างรถกระบะแบบคัสตอมตาม ความฝันของคุณ” ซานดอร์ ปิสซาร์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดรถกระบะของเชฟโรเลต กล่าว “นักสะสมรถสามารถหาซื้อโครงสร้างรถกระบะในราคาที่ค่อนข้างต่ำ ก่อนที่จะนำมาปรับปรุงตัวรถ แชสซีส์ และสมรรถนะได้อย่างไร้ขีดจำกัด ทำให้รถกระบะเชฟโรเลตคือตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักสะสมทุกช่วงอายุ”
นคร มัยรัตน์ เจ้าของรถกระบะคลสสิคเชฟโรเลต ทั้งปี 1939, 1954 และ 1959 ให้ความเห็นว่าความนิยมในรถกระบะคลาสสิคของเชฟโรเลตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากรถแต่ละรุ่นมีความสวยงามเฉพาะตัวแตกต่างกัน และที่สำคัญรถคลาสสิคเชฟโรเลตมีอุปกรณ์ชุดแต่งให้เลือกสรรมากมาย
“รถกระบะโบราณที่ผมมีอยู่ทุกคันผ่านการซ่อมแซมใหม่ทั้งหมด ทั้งการทำสีและโอเวอร์ฮอลเครื่องยนต์ใหม่ การซ่อมแซมรถคลาสสิคเชฟโรเลตเหมือนกับการทำงานศิลปะ ผมภาคภูมิใจมากที่ได้ครอบครองรถเหล่านี้ โดยเฉพาะเมื่อผมได้มีโอกาสขับไปทำงาน คุณจะรู้สึกเหมือนได้ปลุกชีวิตให้กลับคืนมาอีกครั้ง” คุณนครกล่าว “ผมคิดว่าจะมีผู้ให้ความสนใจรถคลาสสิคโบราณมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากรถเหล่านี้ มีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร และยังขับขี่ได้อย่างนุ่มนวลมากด้วย”
การที่รถกระบะเชฟโรเลตที่มีอายุหลายทศวรรษยังคงโลดแล่นอยู่บนท้องถนนสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเจนเนอรัล มอเตอร์สในการผลิตยานยนต์ที่มีคุณภาพสูง ปัจจุบันรถเชฟโรเลตทุกรุ่น อาทิ รถกระบะโคโลราโดรุ่นปัจจุบันได้รับการผลิตด้วยหลักการสร้างคุณภาพในกระบวนการผลิตระดับโลก (Built-In Quality) ของจีเอ็ม และกระบวนการต่างๆ ที่พิสูจน์และยืนยันถึงความทนทานในการใช้งาน
สไตล์ที่โดดเด่นแบบอเมริกันยังตอกย้ำให้รถกระบะเชฟโรเลตมีเสน่ห์ดึงดูดใจ ผลวิจัยระบุว่า การออกแบบภายนอกเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญอย่างมากต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้ารถกระบะ ในประเทศไทย
รถกระบะคัสตอมของเชฟโรเลตที่ถูกประมูลในราคาแพงที่สุด
ชมรถกระบะเชฟโรเลต 12 รุ่นที่มีราคาแพงที่สุดจากการประมูลของบาร์เรตต์-แจ็คสัน (ข้อมูลและภาพจากบริษัท บาร์เรตต์-แจ็คสัน ออคชั่น คอมพานี)
1 – เชฟโรเลต 3100 คัสตอม ปิกอัพ ปี 1957
ปิดประมูลที่ราคา 214,500 เหรียญสหรัฐ ในปี 2016 (ประมาณ 6.8 ล้านบาท) เป็นที่รู้จักในชื่อ “ควิกซิลเวอร์” รถกระบะที่มีมูลค่าสูงสุดในปี 2014 ของบาร์เรตต์-แจ็คสัน คันนี้ได้รับการ ยกย่องว่า “เป็นหนึ่งในรถกระบะคัสตอมที่สวยงามที่สุดตลอดกาล”
2 – เชฟโรเลต 3100 คัสตอม ปิกอัพ ปี 1950
ปิดประมูลที่ราคา 205,700 เหรียญสหรัฐ ในปี 2017 (ประมาณ 6.5 ล้านบาท) รถกระบะคันนี้โดดเด่นด้วยการดัดแปลงทุกส่วน ทั้งแชสซีส์คัสตอมทีซีไอ (TCI) ใหม่ทั้งหมด พร้อม ช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ และเครื่องยนต์ 500 แรงม้า สมรรถนะสูงของเชฟโรเลต
3 – เชฟโรเลต 3100 คัสตอม ปิกอัพ ปี 1958
ปิดประมูลที่ราคา 198,000 เหรียญสหรัฐในปี 2018 (ประมาณ 6.3 ล้านบาท) ผ่านการผลิตและประกอบตัวถังขึ้นใหม่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการซ่อมแซมและการปรับปรุงทั้งคันนานกว่า 1,500 ชั่วโมง
- – เชฟโรเลต 3100 คัสตอม ปิกอัพ ปี 1951
ปิดประมูลที่ราคา 187,000 เหรียญสหรัฐ ในปี 2018 (ประมาณ 5.9 ล้านบาท) รถกระบะที่ดูงามสง่าคันนี้ขึ้นปกนิตยสารสตรีททรัคส์ ในปี 2015 และคว้ารางวัลมาแล้วมากมาย
5 – เชฟโรเลต คาเมโอ ปิกอัพ ปี 1957
ปิดประมูลที่ราคา 159,500 เหรียญสหรัฐ ในปี 2007 (ประมาณ 5.1 ล้านบาท) ตกแต่งด้วยสีส้มมุก Orange Pearl ทั้งคัน ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์ 500 แรงม้า บิ๊กบล็อกของเชฟโรเลต และภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยหนังทั้งหมด
6 – เชฟโรเลต ซี-6 คัสตอม ปิกอัพ ปี 1957
ปิดประมูลที่ราคา 148,500 เหรียญสหรัฐ ในปี 2011 (ประมาณ 4.7 ล้านบาท) ผ่านการสร้างสรรค์นานกว่า 7,000 ชั่วโมง และประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนพันชิ้นอย่างพิถีพิถันเพื่อสร้างรถกระบะรุ่นนี้ขึ้นมา รถคันนี้คว้ารางวัล GM Design ที่งาน SEMA ปี 2009 และรางวัล Mothers Choice Award ที่งาน SEMA ปี 2010
7 – เชฟโรเลต คาเมโอ คัสตอม ปิกอัพ ปี 1955
ปิดประมูลที่ราคา 143,000 เหรียญสหรัฐ ในปี 2013 (ประมาณ 4.5 ล้านบาท) รถกระบะรุ่นนี้มาพร้อมกระบะท้ายที่ได้แรงบันดาลใจจาก โนแมด ปี 1955 ด้านข้างจากเบลแอร์ ปี 1957 และใช้วัสดุหนังสีแดงในห้องโดยสาร
8 – เชฟโรเลต เค10 4×4 คัสตอม ปิกอัพ ปี 1969
ประมูลที่ราคา 137,500 เหรียญสหรัฐในปี 2019 (ประมาณ 4.3 ล้านบาท) รถกระบะแบบมิติ “สั้นและกว้าง” คันนี้ผ่านการบูรณะใหม่หมดทั้งคัน น็อตและสลักทุกตัวถูกถอดออกเพื่อการซ่อมแซมหรือปรับแต่งเปลี่ยนใหม่
9 – เชฟโรเลต 3100 คัสตอม ปิกอัพ ปี 1955
ประมูลที่ราคา 132,000 เหรียญสหรัฐในปี 2006 (ประมาณ 4.2 ล้านบาท) รถกระบะรุ่นนี้ผ่านการปรับแต่งและดัดแปลงนาน 6 ปีเต็ม และปรากฎโฉมบนหน้าปกนิตยสาร 6 ฉบับ โดยนิตยสารสตรีททรัคส์ยกย่องว่าเป็น 1 ใน 50 รถกระบะแห่งยุค 2000
10 – เชฟโรเลต เอล คามิโน คัสตอม ปิกอัพ ปี 1960
ประมูลที่ราคา 126,000 เหรียญสหรัฐในปี 2017 (ประมาณ 4.0 ล้านบาท) ทุกชิ้นส่วนของรถกระบะที่ไม่ธรรมดาคันนี้ได้รับการปรับแต่ง ตั้งแต่เครื่องยนต์จีเอ็มพร้อมระบบหัวฉีดเชื้อเพลิงไปจนถึงห้องโดยสารตกแต่ยหนังและการพ่นสีโครงข้างใต้ตัวถังด้วยความละเอียดขั้นสูง