นับเป็นครั้งแรกที่มีการเปิดตัวรถรุ่น ดีบีเอส จีที ซากาโต ซึ่งถูกออกแบบใหม่เพื่อให้เป็นรถฝาแฝดกับรถรุ่นคลาสสิคอย่าง ดีบี4 จีที ซากาโตโดยมีการคอนเฟิร์มว่ารถรุ่นใหม่นี้มีขุมพลังที่ 760แรงม้าเครื่องยนต์เทอร์โบคู่ วี12 5.2 ลิตร 760 แรงม้า เพื่อฉลองการครบรอบ 100 ปีของซากาโต สำนักออกแบบและการผลิตรถยนต์ชื่อดังของอิตาลี โดยเป็นรถรุ่นแรกของโลกที่มีการใช้เทคโนโลยีการฉีดไฟเบอร์คาร์บอนแบบพิเศษ และใช้เทคโนโลยีการพิมสามมิติมาใช้ในการตกแต่ง โดยจะมีการขายเป็นแพคคู่ 2 คันพร้อมกัน ซึ่งจะผลิตเพียงรุ่นละ 19 คันในโลกเท่านั้น
จากงานเปิดตัวรถรุ่นใหม่นี้ที่งานมหกรรมยานยนต์ รัฐโรดไอส์แลนด์, สหรัฐอเมริกา ทำให้ทั่วโลกได้ยลโฉม ดีบีเอส จีที ซากาโต รถสปอร์ตสุดคลาสสิคสัญชาติอังกฤษที่ดีไซน์ร่วมกับ ซากาโตเป็นครั้งแรก โดยเปิดตัวในราคา 6 ล้านปอนด์ (ประมาณ 200 ล้านบาท)นอกจากนั้น การเปิดตัวรถคอลเลคชั่น ดีบีซี เซนเทนารี่นี้ยังถือเป็นการแสดงถึงความสัมพันธ์ด้านการดีไซน์อันยาวนานระหว่าง แอสตัน มาร์ติน ค่ายรถหรูจากเกาะอังกฤษ และ ซากาโต บริษัทออกแบบและผลิตรถยนต์ชื่อดังจากอิตาลี
รถรุ่นใหม่นี้มาในสีแดงซุปเปอร์โนวา ซึ่งเป็นสีพิเศษสำหรับรุ่นครบรอบ 100 ปีโดยเฉพาะ ตัดกับสีดำซาตินและสีทองของตัวล้ออย่างสวยงาม ประกอบกับหลังคาและดิฟฟิวเซอร์คาร์บอนไฟเบอร์ดำมันขนาดใหญ่, กระจังหน้าอะลูมิเนียมรมดำ, ขอบด้านข้างรถสีทองอะโนไดซ์และโลโก้ทอง 18 กะรัต ที่สวยงามอร่ามทั้งหน้าและหลัง ซึ่งทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงการดีไซน์อย่างพิถีพิถันในแบบฉบับของ แอสตัน มาร์ติน
ภายในตกแต่งด้วยเบาะหนังสีแดงเผ็ดร้อน ซึ่งมาในเฉด Spicy Caithness ปักด้วยตัวอักษร Zและพวงมาลัยสีแดงตัดกับสีดำซาตินอันสวยงาม และนี่ยังเป็นครั้งแรกของโลกที่นำเอาเทคโนโลยีคาร์บอนไฟเบอร์แบบพิเศษ และการใช้เทคโนโลยีการพิมสามมิติมาตกแต่งภายในคอนโซลกลางมีการดีไซน์อย่างหรูหราโดยมีวัสดุให้เลือกถึง 3 ประเภทคือ ไฟเบอร์คาร์บอน, อะลูมิเนียม หรือวัสดุพิเศษที่ใช้สำหรับรุ่นเฉลิมฉองครบ 100 ปีเท่านั้น นั่นก็คือ ทอง พีวีดี (physical vapour depositions) โดยวัสดุชนิดนี้จะต้องใช้การผลิตพิเศษซึ่งใช้เวลากว่า 100 ชั่วโมงโดยช่างฝีมือชั้นสูงเพื่อให้ได้วัสดุที่แวววาวและหรูหราที่สุด และนี่ก็คือการเน้นย้ำถึงความประณีตประกอบกับการใช้เทคโนโลยีอันล้ำสมัยซึ่งถือเป็นจุดเด่นของ แอสตัน มาร์ติน
ลูกค้าของ แอสตัน มาร์ติน ยังสามารถเพิ่มความต้องการส่วนตัวอันโดดเด่นอย่างเหนือระดับด้วยการออกแบบดีไซน์เฉพาะบุคคลในบริการ “คิว บาย แอสตัน มาร์ติน (Q by Aston Martin)” การออกแบบในส่วนนี้ลูกค้าสามารถเลือกใช้วัสดุ, รูปแบบของอุปกรณ์ และการดีไซน์ ด้วยตนเองได้อีกด้วย
แอนเดรีย ซากาโต, ผู้บริหาร บริษัท ซากาโต กล่าวว่า “ความหรูหราอย่างมีระดับของแอสตัน มาร์ติน สามารถไปด้วยกันได้ดีกับรูปแบบการดีไซน์ของเรา รุ่น 100 ปี ซากาโต นี้เปรียบเสมือนสะพานที่เชื่อมต่อระหว่างโลกในอดีตและโลกอนาคต และเน้นย้ำถึงวิสัยทัศน์อันกว้างไกลและนวัตกรรมในการพัฒนายานยนต์ให้ก้าวไปสู่หรูหราเป็นเลิศในอีกระดับ