เมื่อเร็วๆนี้ เอ็มจี เซลส์(ประเทศไทย) เปิดตัว เอ็มจี เอชเอส รถยนต์เอสยูวีตัวใหม่ล่าสุด ด้วยดีไซน์ที่สดใหม่ หรูหราแต่ให้ความคุ้มค่าและประโยชน์ใช้สอย พร้อมสมรรถนะที่โดดเด่น เหนือระดับด้วยระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART และระบบความปลอดภัยที่ครบครัน ในราคาที่ต้องร้องว้าว! เริ่มต้นเพียง 9.19 แสนบาทจนถึงรุ่นท็อปสุด 1.119 ล้านบาท
ทีมงาน buzzbiz24.com มีโอกาสได้ทดสอบเอ็มจี เอชเอส ในช่วงพรีวิว ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการตั้งแต่ 2 เดือน แต่เมื่อได้รับเชิญไปทดสอบอย่างเต็มวันที่เขาใหญ่ก็ยังอดตื่นเต้นไม่ได้ ต้องยอมรับว่า เอ็มจี พัฒนารถรุ่นใหม่ออกมาเซอร์ไพรส์ตลาดรถยนต์ได้รวดเร็วมาก อย่างเอ็มจี เอชเอส พัฒนาออกมาได้อย่างโดดเด่น ครั้งแรกที่ได้ยลโฉม รู้สึกถึง Elegant Design การออกแบบผสมผสานระหว่างความหรูหรากับความสปอร์ตได้อย่างลงตัว โดดเด่นด้วยเส้นสายตัวถังแบบ British Shoulder Line ที่เน้นเรื่องความโค้งมนของตัวรถ กระจังหน้าดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ MG ไฟหน้าโฉบเฉี่ยวแบบ LED Projector พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน(Daytime Running Lights)และไฟท้ายแบบ Space Light Field ยิ่งไปกว่านั้นยังมาพร้อมไฟเลี้ยวทั้งด้านหน้าและหลังที่แสดงผลไล่ระดับแบบ Sequential เพิ่มความหรูหราเหมือนรถยุโรปชั้นดี ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว เสริมความดุดัน
เข้ามาดูในห้องโดยสารก็ยิ่งร้องว้าว เพราะตกแต่งแบบทูโทน สีแดง-ดำ การออกแบบเล่นระดับมีสไตล์และตกแต่งด้วยวัสดุภายในให้สัมผัสนุ่ม(Soft Touch)ครอบคลุมทั้งบริเวณคอนโซลหน้าและแผงประตูทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เพิ่มความพรีเมี่ยม หรูหรา ยิ่งขึ้นด้วยเบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้าแบบBucket Seat ทรงสปอร์ตสีดำสลับแดง ขณะที่เบาะหลังนั่งสบายปรับพับได้แบบ 60:40 พร้อมพนักพิงปรับองศาได้และที่วางแขนขนาดใหญ่โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยไฟในห้องโดยสารแบบInteractive Ambient Light ที่มีแสงต้อนรับทันทีที่เปิดประตูและสามารถปรับโทนแสงภายในห้องโดยสารได้มากถึง 64 เฉดสี รวมทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนแบบอัตโนมัติตามโหมดการขับขี่พร้อมหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof)ขนาดใหญ่ 1.1 ตารางเมตร จุดขายที่เป็นลายเซ็นเฉพาะของเอ็มจี
ตลอดเส้นทางของการทดสอบ ทีมงาน buzzbiz24.com รู้สึกประทับใจกับสมรรถนะของเอ็มจี เอชเอส เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาด 1.5 ลิตร ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์TST(Twin Clutch SportronicTransmission) แบบ 7 สปีด ให้พละกำลังสูงสุดถึง 162 แรงม้าและแรงบิดจัดจ้านที่ 250 นิวตัน-เมตร ในรอบเครื่องที่ต่ำเพียง 1,700 รอบต่อนาที กดคันเร่งพุ่งแรงทันที สามารถทำความเร็ว 0 ถึง 100 ได้ในเวลาไม่ถึง 10 วินาที เอ็มจี เอชเอส พร้อมรองรับน้ำมัน E85 ในรุ่นX หรือรุ่นท็อปสุดมาพร้อมปุ่มปรับโหมดการขับขี่ที่สามารถปรับรูปแบบการขับขี่ได้ถึง 4 โหมด คือ โหมด Normal สำหรับการขับขี่แบบทั่วไป โหมด Eco เพื่อการประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้นโหมด Sport เพื่อเพิ่มความสนุกในการขับขี่ และโหมด Custom ที่สามารถเลือกรูปแบบการขับขี่ได้ตามต้องการนอกจากนี้ยังมาพร้อมปุ่ม Super Sport บนพวงมาลัยที่ช่วยเร่งพลังการขับขี่ให้แรงขึ้นเพิ่มอารมณ์การขับขี่ที่ดุดันเร้าใจยิ่งขึ้น
ช่วงล่างของเอ็มจี เอชเอส เป็นแบบEuroTuning Suspension ค่อนข้างกระด้างเล็กน้อยตามสไตล์รถเอสยูวี แต่ให้ทั้งความสบายและความมั่นใจในการขับขี่ ด้วยช่วงล่างด้านหน้าแบบ MacPherson Strut ที่ได้รับการตั้งค่าให้เหมาะสมกับการขับขี่ของลูกค้า และช่วงล่างด้านหลังแบบ Multi-linkที่รองรับการขับขี่ในสภาพถนนที่หลากหลาย
สิ่งที่น่าทึ่งในเอ็มจี เอชเอส คือ ระบบความปลอดภัยเหนือระดับมาตรฐานยุโรป หรือ Advanced Synchronized Protection System ที่ประเคนใส่มาให้ถึง 25 ระบบ ประกอบด้วยระบบSynchronized Protection System ซึ่งเป็นระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุที่ช่วยทั้งเรื่องระบบเบรกและช่วยรักษาเสถียรภาพในการขับขี่ 14 ระบบ ไม่ว่าเป็นระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้งCBC(CurveBrake Control)ระบบลดความเสี่ยงที่จะทำให้รถพลิกคว่ำ ARP (AntiRolling Program)ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยางTPMS (Tire Pressure Monitor System) และมีอีก 4 ระบบที่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากมุมอับสายตาประกอบด้วยระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning) ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist) ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection) ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA(Rear Cross Traffic Alert)
รวมไปถึงระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Advanced Driver Assistance Systems (ADAS) มากถึง 7 ระบบประกอบด้วย ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC(Intelligent High-Beam Control) ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ FCW(Forward Collision Warning) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control) ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลนLDW (Lane Departure Warning) ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถจะออกนอกเลน LDP(Lane Departure Prevention) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA(Lane Keep Assist) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA(Traffic Jam Assist) นอกจากนี้ยังเสริมความปลอดภัยให้อีกขั้นด้วยถุงลมนิรภัย 6 จุด และเพิ่มมุมมองที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นด้วยกล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ (3D Around View Monitor) เรียกได้ระบบต่างๆที่ใส่เข้ามา เกือบจะทำให้เอ็มจี เอชเอส เป็นรถที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเองอัตโนมัติไปแล้ว
อย่างเช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ที่ผู้ขับขี่สามารถตั้งระยะห่างจากรถคันหน้าได้ เมื่อระบบทำงานจะช่วยรักษาระยะห่างโดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องแตะเบรกเลย หากรถคันข้างหน้าเบรก รถเราจะเบรกชะลอหรือหยุดนิ่งให้เอง เมื่อรถคันหน้าออกตัวไปแล้ว รถเราจะค่อยๆเคลื่อนไปข้างหน้าตามหลังไปติดๆ ซึ่งระบบนี้จะช่วงลดอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้มากมาย แต่สำหรับผู้ขับขี่ทั่วไปอาจไม่ค่อยมั่นใจ หรือรู้สึกรำคาญที่ปล่อยให้รถควบคุมตังเอง บางคนรู้สึกหงุดหงิดกับเสียงสัญญาณเตือนต่างๆ ทั้งๆที่วิศวกรออกแบบระบบเหล่านี้ออกมาเพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และผู้คนบนท้องถนน
เอ็มจี เอชเอส ยังมีการติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกในขณะขับขี่อย่างครบครัน อาทิ หน้าจอแสดงผลที่มาตรวัดแบบ Interactive Multi – Function Displayขนาด 7 นิ้ว ที่แสดงข้อมูลทั้งเรื่องการขับขี่ ระบบความปลอดภัย ระบบความบันเทิง และระบบนำทาง พร้อมหน้าจอหลักแบบSmart Touchscreenขนาด 10 นิ้วพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone และช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลังพร้อมกุญแจระบบSmart Key และปุ่ม Push Start นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้า (Electric Liftgate) ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน
เอ็มจี เอชเอส มาพร้อมระบบปฎิบัติการอัจฉริยะ i-SMARTเอกสิทธิ์เฉพาะสำหรับผู้ใช้รถยนต์เอ็มจี ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่กับรถสามารถสื่อสารกันได้เพื่อความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Smart Commandระบบสั่งการที่สามารถสั่งการได้ด้วยเสียงภาษาไทย ที่มีฟังก์ชั่นการสั่งการที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การโทรออก สั่งการควบคุมระบบเครื่องเสียง สั่งเปิดระบบปรับอากาศก่อนเข้ารถ ระบบเปิด-ปิดหน้าต่างฝั่งคนขับ และระบบเปิด-ปิดหลังคาซันรูฟ รวมถึงค้นหาจุดที่น่าสนใจ(Point Of Interest)ผ่าน Navigator เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังสามารถสั่งการระบบต่างๆ ผ่านหน้าจอทัชสกรีนภายในรถหรือเลือกสั่งการผ่าน MG Mobile Application บนสมาร์ทโฟนSmart Connectที่สามารถค้นหาเพลงฮิตเพลงดังผ่าน Online Music และค้นหาร้านอาหารเด็ดสถานที่ท่องเที่ยวและโรงแรม แสดงผลการจราจรรวมถึงอัพเดตข่าวสารในปัจจุบันบนหน้าจอในรถ และ Smart Check ที่สามารถตรวจสอบสถานะ และตรวจเช็กรถได้อย่างง่ายดาย ตลอดจนการสั่งการล็อกหรือปลดล็อกประตูรถตรวจสอบตำแหน่งรถ แจ้งเตือนเมื่อพบสิ่งผิดปกติ และช่วยค้นหาศูนย์บริการ รวมถึงการบันทึกการดูแลรักษารถตามระยะผ่าน MG Mobile Application
หากสรุปผลการทดสอบเอ็มจี เอชเอส ในครั้งนี้ ก็ต้องบอกว่า ยิ่งขับยิ่งชอบ ยิ่งนั่งยิ่งหลงรัก ไม่น่าเชื่อว่า รถเอสยูวีคันนี้จะให้สมรรถนะและความอเนกประสงค์มาได้อย่างครบเครื่องขนาดนี้ สิ่งอำนวยความสะดวกบรรจบใส่มาให้เยอะมาก จนทดลองใช้ไม่หมด ถูกใจมนุษย์โซเชียลอย่างแน่นอน ด้านระบบความปลอดภัยยุคใหม่ก็ใส่มาให้ไม่น้อยหน้ารถยุโรปชั้นดี คุณสมบัติที่โดดเด่นอย่างนี้ ไม่น่าเชื่อ จะตั้งราคาแค่ล้านต้นๆเท่านั้น นับว่า เป็นเอสยูวีที่น่าเป็นน่าใช้มากในขณะนี้