บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัดดำเนินโครงการ“มิตซูบิชิมอเตอร์สช่วยหมอต่อชีวิตสู้ภัยโควิด-19”อย่างต่อเนื่องเพื่อร่วมสนับสนุนการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยล่าสุด มิตซูบิชิมอเตอร์สประเทศไทยได้ต่อยอดศักยภาพด้านการผลิตมาสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านความรับผิดชอบต่อสังคม โดยได้ผลิตเครื่องอบฆ่าเชื้อUV-Cและมอบให้แก่โรงพยาบาล 4 แห่งในจังหวัดชลบุรี เพื่อใช้สนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ทางการแพทย์
นายโมะริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทมิตซูบิชิมอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “จังหวัดชลบุรีเปรียบเสมือนบ้านของเรา เพราะเป็นสถานที่ตั้งของศูนย์การผลิตของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เราจึงได้ร่วมมือและให้การสนับสนุนแก่โรงพยาบาลในชุมชนของเราอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยพัฒนาระบบสาธารณสุขและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนในชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ท้าทายจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19”
“พนักงานทุกคนที่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ต่างมีส่วนร่วมในโครงการนี้ เพื่อร่วมกันป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19และป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่ออื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคตโดยเครื่องอบฆ่าเชื้อUV-Cที่พนักงานของเราพัฒนาขึ้นคืออีกหนึ่งความมุ่งมั่นในการสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์ ผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าเมื่อเราทุกคนต่างร่วมมือร่วมใจกัน ประเทศไทยจะสามารถคงอัตราของผู้ติดเชื้อให้อยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่องและสามารถผ่านพ้นความท้าทายนี้ไปได้ในที่สุด” มร. ชกกิกล่าวเพิ่มเติม
การพัฒนาเครื่องอบฆ่าเชื้อUV-Cโดยพนักงานของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ถือเป็นการต่อยอดงานวิจัยที่ได้รับการรับรองในการนำเทคโนโลยี UV-C มาปรับใช้เพื่อฆ่าเชื้อไวรัส โดยอุปกรณ์ที่ผลิตขึ้นนี้สามารถฆ่าเชื้อไวรัสบนหน้ากากอนามัย N95 และ หน้ากากที่ใช้ในการผ่าตัดที่ใช้แล้วได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถนำหน้ากากอนามัยเหล่านี้กลับไปใช้ซ้ำได้อย่างปลอดภัย และยังสามารถช่วยลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการขาดแคลนหน้ากากได้อีกด้วย
มิตซูบิชิมอเตอร์สประเทศไทยได้ดำเนินการส่งมอบเครื่องอบฆ่าเชื้อUV-C ให้แก่โรงพยาบาลทั้ง4แห่งดังต่อไปนี้
- โรงพยาบาลบางละมุง
- โรงพยาบาลแหลมฉบัง
- โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยบูรพา
- โรงพยาบาลชลบุรี
โดยก่อนหน้านี้ โครงการ “มิตซูบิชิมอเตอร์สช่วยหมอต่อชีวิตสู้ภัยโควิด-19”ได้มอบความช่วยเหลือไปแล้วรวมมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท ด้วยการบริจาคเครื่องช่วยหายใจชุดป้องกันเชื้อโรค PPE รวมถึงหน้ากากอนามัยN95 ให้แก่โรงพยาบาล 6 แห่งใน 5 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19