นางสาวอรอุทัย ณ เชียงใหม่ กรรมการบริหาร ธุรกิจการตลาดค้าปลีก บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวถึงบทบาทของเชลล์ในสถานการณ์โควิด-19 ว่า “ในฐานะบริษัทที่อยู่เคียงข้างคนไทยมายาวนาน เชลล์ตระหนักดีว่าสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงของเราทำหน้าที่มากกว่าเป็นสถานที่สำหรับการแวะเติมน้ำมันเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์กลางในการดูแลและให้การช่วยเหลือชุมชน ตามความมุ่งมั่นของเชลล์ในการ‘เติมสุขให้ทุกชีวิต’โดยเราใช้สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นพื้นที่ในการแบ่งปันสิ่งของที่จำเป็นให้แก่ชุมชน
เชลล์ให้ความสำคัญกับมาตรการยกระดับความปลอดภัยและสุขอนามัยเป็นสิ่งแรก เพื่อให้ลูกค้าอุ่นใจได้ว่าสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงของเราปลอดภัย พร้อมเป็นจุดพักที่มีผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเกรดพรีเมี่ยม หรือบริการนอนออยล์อื่นๆ เช่น ศูนย์เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เชลล์เฮลิกส์พลัสศูนย์เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรถจักรยานยนต์ เชลล์แอ๊ดว้านซ์ มอเตอร์แคร์ เอ็กซ์เพรส อีกทั้งร้านสะดวกซื้อซีเล็ค และร้านกาแฟเดลี่คาเฟ่”
มาตรการการหยุดเชื้อเพื่อชาติในช่วงเริ่มต้นการระบาดของโควิด-19 ทำให้หลายธุรกิจต้องปิดตัวลงหรือหยุดให้บริการส่งผลให้ผู้คนที่สูญเสียรายได้ต้องการความช่วยเหลือด้านสิ่งของจำเป็นอย่างอาหารและน้ำดื่มสถานีบริการน้ำมันเชลล์ซึ่งเปิดบริการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ขับขี่ทุกวันและอยู่ในจุดที่เข้าถึงได้ง่ายได้กลายมาเป็นพื้นที่ศูนย์กลางให้กับหลายชุมชนผู้บริหารสถานีในหลายๆ พื้นที่ได้ร่วมมือร่วมใจกันเติมสุขให้ชุมชน จัดสรรถุงยังชีพ แจกจ่ายอาหารและน้ำดื่ม และแบ่งปันสิ่งของที่จำเป็นให้กับชุมชนในพื้นที่ที่สถานีบริการเชลล์ตั้งอยู่เพื่อช่วยเหลือซึ่งกันละกันในขณะที่เชลล์เองมีการจัดส่งอาหารไปให้พนักงานหน้าลานในพื้นที่ที่ขาดแคลนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
ที่สำคัญการแบ่งปันยังได้ส่งต่อไปถึงบุคลากรทางการแพทย์ ผู้เป็นด่านสำคัญด่านแรกที่ต้องต่อสู้กับโรคระบาดครั้งนี้ โดยเชลล์ได้บริจาคน้ำดื่มจำนวนเพียงพอสำหรับการบริโภคเป็นเวลา 3 เดือนให้กับ4 โรงพยาบาลหลักที่ให้การรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ได้แก่ โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติและสถาบันบำราศนราดูร นอกเหนือจากการบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือและจัดการกับการระบาดของโรคไวรัสโควิด–19 จำนวน 4 ล้านบาทให้กับโรงพยาบาลรามาธิบดี และ มูลนิธิชัยพัฒนาถึงแม้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันจะดีขึ้นมาก เชลล์มองเห็นความจำเป็นของการมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่โรงพยาบาลจำเป็นต้องมีไว้ใช้ในการคัดกรองผู้ป่วยเบื้องต้นตามมาตรการความปลอดภัยจึงได้จัดหาเครื่องเทอร์โมสแกนจำนวนกว่า500 เครื่อง รวมมูลค่ากว่า 1.4 ล้านบาท ให้กับสภากาชาดไทย เพื่อไปแจกจ่ายต่อให้กับโรงพยาบาลที่ขาดแคลน
นอกจากเครื่องอุปโภค-บริโภคแล้ว เจลล้างมือแอลกอฮอล์เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จำเป็นในการรักษาสุขอนามัยส่วนตัวในสถานการณ์โรคระบาด เชลล์จึงได้จัดหาเจลล้างมือแอลกอฮอล์ 72% เพื่อส่งไปให้สมาชิกเชลล์ คลับสมาร์ทที่แสดงความจำนงทางเว็บไซต์ร้านสะดวกซื้อซีเล็คเป็นศูนย์กลางในการจัดหาและเปิดจำหน่ายแอลกอฮอล์สำหรับทำความสะอาดมือ ขนาด5ลิตรในราคาสุดพิเศษเพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงการมีอุปกรณ์ที่จำเป็นในการทำความสะอาดเพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เชลล์ได้เปิดบริการชำระเงินแบบไร้สัมผัส“Contactless Payment” ผ่านคิวอาร์พร้อมเพย์ ให้ลูกค้าสามารถชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ และ บริการชำระเงินแบบแตะเพื่อจ่ายภายในรถยนต์ที่จุดเติมน้ำมันเพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19และเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้า
ในสถานการณ์โรคระบาด เชลล์ได้ยกระดับมาตรการความปลอดภัยและสุขอนามัย จัดทำคู่มือมาตรการความปลอดภัยและสุขอนามัยแก่พนักงานหน้าลานทั่วประเทศ เพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนที่เข้ามาในบริเวณสถานีบริการปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า ชุมชนรอบสถานี หรือพนักงานที่ปฏิบัติงานนอกจากนี้เชลล์ยังกำหนดเวลาและขั้นตอนในการทำความสะอาด การดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล ไปจนถึงการวางแผนกำลังคนในช่วงโรคระบาด โดยแบ่งพนักงาน ออกเป็น 2 กลุ่มเพื่อให้ง่ายต่อการมอนิเตอร์ นอกจากนี้เชลล์ยังดูแลพนักงานที่สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นอย่างดี ด้วยการจัดหาอุปกรณ์ป้องกันในการทำงาน เช่นแอลกอฮอล์สำหรับทำความสะอาด ให้กับพนักงาน
“เชลล์ตระหนักเสมอว่าเรามีหน้าที่สำคัญในการช่วยเหลือและสนับสนุนลูกค้า ชุมชนและพนักงานของเราให้ปลอดภัยเพราะหากทุกภาคส่วนปลอดภัย ประเทศชาติก็จะเดินหน้าไปได้และในขณะนี้สถานการณ์กำลังคลี่คลายและผู้คนเริ่มไปใช้ชีวิตปกติภายใต้New Normalเชลล์มีความพร้อมในการต้อนรับลูกค้าทุกท่าน ด้วยผลิตภัณฑ์น้ำมันคุณภาพ บริการนอนออยล์ที่หลากหลายพร้อมด้วยมาตรการความปลอดภัยและสุขอนามัยที่สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงของเรา”นางสาวอรอุทัยสรุป